เที่ยวมิลาน – Milan (มิลาน) หรือ ที่คนอิตาเลียนเรียกว่า Milano (มิลาโน) เป็นเมืองหลักของแคว้นลอมบาร์เดีย และเป็นเมืองสำคัญในภาคเหนือของอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณที่ราบ ลอมบาร์ดี้  (Lombardy) เป็นอีกหนึ่งเมืองที่ไม่ควรพลาดเมื่อมา โดยเฉพาะคนที่ชอบในเรื่องของแฟชั่น และสถาปัตยกรรม ซึ่งถือว่าเมืองหลวงทางแฟชันของโลกแข่งกับปารีส และเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจที่สำคัญของอิตาลี มีทั้งมีภาพวาดเฟรสโก้ โรงละครโอเปร่า และ สถานที่ต่างๆมากมายหลายมุมที่เมืองนี้ และที่นี่ยังเป็นที่รู้จักจากประเพณีคริสต์มาสที่เรียกว่า ปาเนตโตเน (Panettone) อุตสาหกรรมผ้าไหม และแหล่งผลิตรถยนต์ อัลฟา โรมีโอ อีกด้วย

เที่ยวมิลาน เมืองแฟชั่น On Black Friday

และที่นี่ยังไมีหนึ่งจุดที่สำคัญคือ ในอดีต ผู้ปกครองเมืองมิลานได้ให้ ลีโอนาร์โด ชาวเมืองฟลอเรนซ์ ให้มาผลิตผลงานที่เมืองมิลาน รวมทั้ง มิเคลันเจโล ด้วยเช่นกัน ผลงานชิ้นสำคัญที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกคือภาพวาดปูนเปียกที่ชื่อว่า “ The Last Supper ” อยู่ในเมืองมิลานนี่เอง ที่ “ โบสถ์ซานตา มาเรีย เดลเล กราเซีย (Santa Maria delle Grazie) ” ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้ และเป็นแห่งเดียวในมิลานที่ถูกกำหนดให้เป็นมรดโลกของเมืองนี้

ที่ตั้งว่า Black Friday เพราะว่า ได้เดินทางมาถึงที่นี่ตอนช่วงเวลา ที่ร้านค้าต่างๆพาลดกระหน่ำจริงๆ ในช่วงสุดสัปดาห์นั้น ตั้งแต่วันศุกร์ถึงวันอาทิตย์ เค้าถึงเรียกว่า Black Friday!! นั่นเอง ถ้าใครมีโอกาสไปมิลานช่วงปลายปี ก็ลองเช็ควันดู เผื่อตรงพอดี รับรองว่าหากชอบ Shopping แล้ว นี่แหละคือโอกาสที่ดีสุดๆอีกช่วงหนึ่งของมิลานเลยหละ

วิหาร Duomo ถือว่าใหญ่เป็นที่ 2 รองจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในกรุงโรม แต่เป็นมหาวิหารแบบโกธิก เริ่มก่อสร้างเมือปี 1386 ในสมัย Gain Galeazzo Visconti แห่งตระกูล วิสคอนติ เพื่ออุทิศถวายแด่พระแม่มาเรีย ให้ทรงประทานบุตรชายเพื่อสืบทอดตระกูล แต่กว่าจะสร้างเสร็จสมบูรณ์ต้องรออีก 427 ปีหลังจากนั้น

พระบรมรูปทรงม้าพระเจ้าวิคเตอร์ เอมานูเอลที่ 2 จะตั้งอยู่ตรงลานกว้างด้านหน้าของวิหาร  อนุสาวรีย์แสดงให้เห็นว่ากษัตริย์นำทหารไปสู่การต่อสู้ของซานมาร์ติโนระหว่างสงครามอิสรภาพของอิตาลีครั้งที่สอง ซึ่งชัยชนะในครั้งนั้น เป็นยืนยันความเป็นอิสระของอิตาลี

Galleria Vittorio Emanuele II (กัลเลรีอา วิตโตรีโย เอมานูเอเล) เป็นห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่ที่สุดของอิตาลีและเป็นหนึ่งในห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ที่ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองมิลาน ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิก Giuseppe Mengoni โดยตั้งตามชื่อของกษัตริย์องค์แรกของราชอาณาจักรอิตาลี พระเจ้าวิตโตรีโอ เอมานูเอเลที่ 2 แห่งอิตาลี โดยโครงสร้างหลักของอาคาร 4 ชั้นนั้นประกอบไปด้วยทางเดินภายใต้หลังคาโค้ง 2 ทางเดินที่มีจุดตัดเป็นรูปแปดเหลี่ยม ตั้งอยู่บนถนนที่เชื่อมระหว่างปียัซซาเดลดูโอโมไปจนถึงปียัซซาเดลลาสกาลา ซึ่งทางเดินนี้ได้ถูกปิดด้วยกระจกและหลังคาที่เป็นเหล็กหล่อออกแบบเป็นช่องโค้งตามแบบของสถาปัตยกรรมยอดนิยมของคริสต์ศตวรรษที่19 จุดตัดกึ่งกลางของทางเดินรูปแปดเหลี่ยมนั้นเป็นบริเวณที่ถูกสร้างขึ้นเป็นโดมกระจก  บนพื้นมีงานโมเสกสี่ชิ้นทำเป็นรูปตราสัญลักษณ์ของเมืองหลวงทั้ง 3 แห่งของอิตาลี ได้แก่ ตูริน โรม และฟลอเรนซ์

ตั๋วรถ ในมิลาน สามารถใช้ด้วยกันได้ ทั้งรถบัส, รถราง(Tram) โดยบัตรจะมีเวลาจำกัดในการเดินทาง 90 นาทีนับตั้งแต่ตอกตั๋วเข้าเครื่อง แต่ถ้าคุณขึ้น Metro จะสามารถตอกได้แค่รอบเดียว ไม่สามารถ นำบัตร ไปเข้า Metro ได้อีกรอบ ภายใน 90 นาที เพราะฉะนั้น วางแผนการเดินทางกันดีๆ ก่อนเดินทางทุกครั้งเพื่อจะได้ไม่เสียเวลาทีหลัง

และ ถ้ามาเมืองนี้ ที่ห้ามพลาดคือ  shopping ซึ่งมีร้านต่างๆเยอะมาก ตามซอกซอย ทั้งแบรนธรรมดา และ Hi end แต่ถ้าใครที่ชอบ Shop ของมือ 2 แนะนำให้ไปที่ ตลาดนัดวันเสาร์ Navigli ตอนปลายเดือน เพราะจะมีของแบรนด์เนมมือ 2 ให้เลือกมากมาย

และนี่คือ ปราสาท Castello Sforzesco เป็นปราสาทที่พำนักของตระกูลนฟอร์ซา ผู้ปกครองมิลานในยุคศตวรรษที่ 15 ปี ปราสาทสฟอร์เซสโก้ (Castello Sfozesco) สถานที่ท่องเที่ยวเก่าแก่และมีความสำคัญของอิตาลี ตั้งอยู่ใน Parco Sempione สวนสาธารณะเขียวขจีขนาดกว้างขวาง ชาวเมืองที่นี่นิยมมาวิ่งออกกำลังกายกัน ภายในมีพิพิธภัณฑ์เล็กๆ ที่มีชื่อว่า Museum of Ancient Art ให้ได้ศึกษาประวัติความเป็นมาเมืองมิลานและเรื่องราวของปราสาทสฟอร์เซสโก้ นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่เก็บผลงานศิลปะของศิลปินชื่อดังอย่าง ไมเคิล แองเจลโล รวมทั้งผลงานของเหล่าศิลปินชื่อดังในยุคเรเนสซองส์อีก และ ปราสาทนั้นเข้าชมฟรีค่าา แต่ในส่วนพิพิธภัณฑ์นั้นต้องเสียเงิน ด้านหลังมีสวนสาธารณะให้มานั่งชิวๆได้

กาแฟคือ Culture ของคนที่นี่ และที่เค้านิยมดื่มกันคือ Espresso และ Macchiato

Navigli District (นาวิกลี) 15 นาทีจาก Duomo โดยรถรางก็มาถึง ซึ่งคลอง Navigli จะมีสองด้าน ด้านหนึ่งติดถนนใหญ่ เป็นคลองกว้าง มีร้านค้า ขายของต่างๆมากมาย

บรรยากาศด้านหน้า และภายใน สถานีรถไฟ Milano Centrale เป็นสถานีรถไฟหลัก ที่จะเดินทางไปยังเมืองอื่นๆ ทั้งรถไฟธรรมดา และรถไฟด่วน TGV ส่วนใหญ่จอดที่สถานีนี้เกือบทั้งหมด ตัวอาคารสถานีรถไฟด้านหน้า เป็นสถาปัตยกรรมแบบเก่า ที่สวยงาม ด้านในก็มีร้านค้า Fast Food ต่างๆ และ ร้าน Shopping ต่างๆ

อีกบรรยากาศในเวลากลางคืน หน้าวิหาร วิหารแห่งนี้สวยทุกเวลาจริงๆ ทั้งกลางวันและกลางคืน และ มีหลายสถานที่ ที่น่าสนใจและสวยงาม หากมีเวลาแค่วันเดียยวก็สามารถมาได้ รับรองว่าทุกคนจะประทับใจกับ Milan เมืองแห่งแฟชั่น นี้แน่นอน..



ขอขอบคุณเนื้อหาข้อมูลดีๆจาก  https://blog.traveloka.com/th/internatonal-trip/milan-black-friday-fashion/