23:00 น. ถึงกรุงโดฮา นำคณะต่อเครื่องออกเดินทางสู่ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี โดยสายการบินการ์ต้ารแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ QR123 

  07:10 น. เดินทางถึง สนามบินเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี หลังผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและรับกระเป๋าเรียบร้อย นำท่านเดินทางสู่เมืองซีร์มิโอเน่ (ระยะทางประมาณ 170 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง)  เมืองเก่าแก่อายุกว่า 2000 ปี ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่เป็นแหลมยื่นเข้าไปในทะเลสาบการ์ดา “Lake Grada” ที่สวยงาม ในสมัยก่อนศตวรรษที่ 15 เมืองซีร์มิโอเน่ ถือว่าเป็นอาณาบริเวณภายใต้การปกครองของเวนิส  เพราะสมัยนั้นเมืองต่าง ๆ ในอิตาลียังไม่ได้รวมตัวกัน ต่างเป็นเอกเทศปกครองกันเอง เมืองซีร์มิโอเน่จึงถือว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่มีประวัติอันยาวนาน มีหลักฐานและร่องรอยทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่ยุคสมัยโรมัน    ทั้งกำแพงเมืองที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อป้องกันสงคราม ในอดีตสมัยยุคโรมันเคยเป็นเมืองที่ผู้คนที่มีฐานะใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ และปัจจุบันก็เป็นหนึ่งในเมืองพักผ่อนริมทะเลสาบที่มีชื่อเสียง นำท่านถ่ายภาพด้านหน้าปราสาทเก่าแก่ของเมือง “The Scaliger of Sirmione” ที่สร้างขึ้นในสมัยที่ถูกปกครองโดยตระกูล Scaliger ช่วงค.ศ. 1277  

  กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ เขตอุทยานแห่งชาติโดโลไมท์  (ระยะทางประมาณ 185 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง 30 นาที) นำท่านแวะชมทะเลสาบคาเรซซ่า Carezza Lake หรือในภาษาอิตาเลี่ยนเรียกว่า “Lec de ergobando” แปลได้ว่าทะเลสาบสายรุ้ง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทะเลสาบที่มีชื่อเสียงในอุทยานโดโลไมท์      น้ำในทะเลสาบมีหลายเฉดสี ตั้งแต่เขียว, เทอร์ควอยซ์, ฟ้าและน้ำเงิน ทำให้ทะเลสาบแห่งนี้ถูกเรียกว่าทะเลสาบสายรุ้ง ด้วยวิวทะเลสาบสีเขียวทองที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยเขาสูงปลายแหลม สะท้อนสีสันหลากหลายของธรรมชาติ    จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองโบลซาโน “Bolzano” (ระยะทางประมาณ 27 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เมืองใหญ่ที่สุดในเขตโดโลไมท์ และเป็นเมืองหลวงของภูมิภาคทีโรลใต้ ซึ่งล้อมรอบด้วยแม่น้ำ  (เมืองโบลซาโน เป็นเมืองที่ใช้ในการพักค้างคืนเท่านั้น อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้หากไม่มีที่พักว่างในช่วงวันเดินทางนั้นๆ โดยทางบริษัทจะเปลี่ยนไปยังเมืองอื่นแทนโดยยังคงซึ่งความสะดวกสบายในการเดินทาง) 

  ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
  ที่พัก FOUR POINT BY SHERATON BOLZANO HOTEL ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

ที่พัก

  เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก 
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ที่ ทะเลสาบมิซูลิน่า “Misurina Lake”  (ระยะทางประมาณ 16 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เป็นทะเลสาบที่สวยงาม และเป็นเหมือนกับหนึ่งในแลนด์มาร์คที่นักท่องเที่ยวต้องมาเยือนสักครั้ง เป็นทะเลสาบที่หลบซ่อนตัวในหุบเขา ที่ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งในโดโลไมท์  หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ Noventa Di Piave Designer Outlet ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง ให้ท่านได้เลือกเดินซื้อสินค้าตามใจชอบ ซึ่งแต่ละร้านลดราคาสินค้ามากถึง 70 เปอร์เซ็นต์ มีร้านค้ากว่า 170 ร้าน  ให้เวลาท่านได้อิสระช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมมากมาย อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย

  กลางวัน อิสระมื้ออาหารกลางวัน 
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เวนิส เมสเตร้ แคว้นเวเนเซีย (Venezia) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที ดินแดนแสนโรแมนติก เป็นเมืองที่ไม่เหมือนใคร โดยใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน มีสมญานามว่าเป็น “ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก” มีเกาะน้อยใหญ่กว่า 118 เกาะและมีสะพานเชื่อมถึงกันกว่า 400 แห่ง จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ ท่าเรือตรอนเคตโต้ เพื่อเตรียมตัวนั่งเรือข้ามสู่เกาะเวนิส เพื่อท่องเที่ยวและพักค้างคืนบนเกาะแห่งนี้   จากนั้นนำทุกท่านนั่งเรือเพื่อไปยัง ท่าเรือซานมาร์โค “San Marco Pier” บนเกาะเวนิส จากนั้นให้ถ่ายรูปสวยๆ เก็บเป็นที่ระลึกกันที่ พระราชวังดอดจ์ “Doge’s Palace” พระราชวังริมน้ำแสนอลังการที่สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ในสไตล์เวเนเชียนโกธิค ที่เคยเป็นที่ประทับของผู้ปกครองแต่เก่าก่อนของเวนิส แต่ตั้งแต่ปี 1923 ก็ได้เปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ให้คนทั่วไปได้เข้าชม เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กหลักของเวนิส  จากนั้นเดินเที่ยวชมแลนด์มาร์คสำคัญต่างๆ ในเมือง และเก็บภาพสถานที่ต่างของเมืองแห่งคลองไม่ว่าจะเป็น จัตุรัสเซนต์มาร์ค “St. Mark’s Square” จัตุรัสหลักของเมืองเวนิสและยังเป็นศูนย์กลางเมืองตั้งแต่โบราณ รายล้อมไปด้วยอาคารสวยๆ สไตล์โกธิค และจุดเด่นของจัตุรัสเซนต์มาร์คแห่งนี้ก็คือ มหาวิหารเซนต์มาร์ค  (St. Mark’s Basilica)  ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของจัตุรัสเซนต์มาร์ค มหาวิหารใหญ่ของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก อลังการด้วยการตกแต่งด้วยโดมใหญ่ รูปปั้นมากมายที่ทั้งละเอียดและประณีต และที่อยู่ติดกันและโดดเด่นด้วยความสูงถึง 50 เมตรก็คือ หอระฆัง ถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองที่เห็นได้ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของเมืองก็ตาม และที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ สะพานถอนหายใจ  สะพานอันโด่งดังแห่งนี้ตั้งอยู่เหนือแม่น้ำที่คั่นกลางระหว่างคุกเก่ากับพระราชวังดอดจ์ ทำจากหินปูนที่แกะสลักและออกแบบอย่างงดงามเช่นเดียวกับพระราชวังดอดจ์และอาคารโดยรอบ 

  ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม   
  ที่พัก LEONARDO ROYAL HOTEL VENICE MESTRE ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า 

ที่พัก

  เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก 
นำท่านเดินทางสู่ เมืองฟลอเรนซ์ “Florence”  (ระยะทางประมาณ 265 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที) เมืองสวยอันดับ 1 ของอิตาลี เมืองเก่าที่มีความเจริญสูงสุดในศตวรรษที่ 13 – 16 เมืองที่ถือเป็นต้นกำเนิดของชาวอิตาลีและยังคงความสวยงาม มีการอนุรักษ์ไว้ได้อย่างดี ทั้งเมืองเต็มไปด้วยศิลปะ โดยเฉพาะศิลปะยุคเรเนสซองส์เป็นยุคที่ศิลปะเฟื่องฟูที่สุด

  กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
นำท่านชม จัตุรัสซินยอเรตตา จัตุรัสกลางเมืองซึ่งปัจจุบันเป็นศาลาว่าการเมือง ณ จัตุรัสแห่งนี้ท่านจะได้พบกับศิลปะมากมาย อาทิเช่น รูปปั้นเดวิดจำลอง ที่เหมือนของจริงทุกประการชมสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของเมืองและไม่มีที่ไหนเหมือน มหาวิหารซานตามาเรีย เดลฟิออเร่  มหาวิหารที่มียอดโดมขนาดใหญ่เป็นอีกหนึ่งสัญญาลักษณ์ของเมือง หอศีลจุ่มที่มีความสวยความงาม ชมสะพานเวคคิโอ หรือสะพานทองคำ สะพานข้ามแม่น้ำอาร์โนแห่งแรกของเมือง อิสระให้ทุกท่านถ่ายรูป      จากนั้นเดินทางสู่หมู่บ้านทัสคานี (ระยะทางประมาณ 124 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที)  แหล่งผลิตไวน์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ขับรถผ่านชมวิว Val d’Orcia ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO ในปี 2004  Val d’Orcia เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่เกษตรกรรมหลังเมือง Siena ขึ้นชื่อว่ามีทิวทัศน์ที่สวยงามตระการตาที่สุดในอิตาลี ตั้งอยู่ท่ามกลางเนินเขาที่ลาดเอียง สะท้อนถึงธรรมชาติอันกลมกลืนอันสวยงามได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ภาพถ่ายออกมาสวยงามสมบูรณ์แบบ ผ่านหมู่บ้านที่สวยงามเงียบสงบที่ตั้งอยู่ในหุบเขาของเนินเขาในทัสคานี เช่น Pienza, Montalcino และ Montepulciano        นำท่านหยุดที่เมืองที่สวยงามที่สุดในทัสคานีอย่าง Pienza เพื่อเดินเล่นเล่นชมเมืองอย่างเพลิดเพลิน  เมือง Pienza ซึ่งเป็นเสมือนจุดเริ่มต้นของการวางผังเมืองในยุคเรอเนสซองส์ เป็นเมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของ UNESCO หมู่บ้านทั้งหมดได้รับการสร้างขึ้นใหม่ให้เป็นเมืองเรเนซองส์ในอุดมคติ ซึ่งปัจจุบันตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาในทัสคานีอย่างสง่างาม เป็นหนึ่งในเมืองทัสคานีที่มีเสน่ห์ที่สุดที่ท่านจะได้พบเจอ ขณะที่เราเดินชมเมือง Pienza ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี เราจะผ่านสถานที่สำคัญๆ เช่น Palazzo Piccolomini, มหาวิหาร (Duomo), Palazzo Vescovile และตรอกซอกซอยแคบ ๆ ที่สวยงามของอิตาลีที่เรียงรายไปด้วยกำแพงที่ทรุดโทรม  กระทั้งได้เวลาอันสมควรนำท่านเข้าสู่ที่พักอันแสนคลาสสิค ดื่มด่ำกับพื้นที่มรดกโลก และลิ้มลองไวน์ที่ขึ้นชื่อของทัสคานี หนึ่งในไวน์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของอิตาลี   

  ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พร้อมชิมไวน์รสนุ่มของทัสคานี    ที่พัก ABBADIA SICILLE RELAIS ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

ที่พัก

  เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก 
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองปิซ่า (Pisa) (ระยะทางประมาณ 177 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที) เมืองแห่งศิลปะที่สำคัญของอิตาลี เป็นเมืองเล็กๆอยู่ทางตะวันตกของ Florence ด้านตะวันตกของเมืองติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แม้ว่าจะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ Pisa ก็เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก  นำท่านเดินทางเข้าสู่บริเวณ จัตุรัสดูโอโมแห่งปิซ่า หรือ จัตุรัสกัมโป เดย์ มีราโกลี (Compo Dei Miracoli) ที่ประกอบด้วยกลุ่มอาคารสถาปัตยกรรมแบบโรมมาเนสก์ โดยเริ่มจากหอพิธีเจิมน้ำมนต์ (Baptistry of St. John) ที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี ชม มหาวิหารดูโอโม (Duomo) ที่งดงามและหอเอนแห่งเมืองปิซ่าอันเลื่องชื่อ นำท่านถ่ายภาพคู่กับ หอเอนปิซ่า (Leaning Tower of Pisa) สัญลักษณ์แห่งเมืองปิซ่า 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ.1173 ใช้เวลาสร้างประมาณ 175 ปี แต่ระหว่างการก่อสร้างต้องหยุดชะงักลงไปเมื่อสร้างไปได้ถึงชั้น 3 ก็เกิดการยุบตัวของฐานขึ้นมา และต่อมาก็มีการสร้างหอต่อเติมขึ้นอีกจนแล้วเสร็จ โดยใช้เวลาสร้างทั้งหมดถึง 177 ปี โดยที่หอเอนปิซ่านี้ กาลิเลโอ บิดาแห่งวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นชาวอิตาเลี่ยนได้ใช้เป็นสถานที่ทดลองทฤษฎีแรงโน้มถ่วงของโลกที่ว่า สิ่งของสองชิ้น น้ำหนักไม่เท่ากัน ถ้าปล่อยสิ่งของทั้งสองชิ้นจากที่สูงพร้อมกัน ก็จะตกถึงพื้นพร้อมกัน จากนั้นให้ท่านอิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าที่ระลึกราคาถูก ที่มีร้านค้าเรียงรายอยู่มากมาย

  กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร 
จากนั้นทำท่านเดินทางสู่ ลิกูเรีย หมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดของอิตาลี ปอร์โตฟิโน่ (ระยะทางประมาณ 177 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที) เมืองชายฝั่งที่มีท่าเรือรูปพระจันทร์เสี้ยวอันเงียบสงบใจกลางริเวียร่าอิตาลี บริเวณชายฝั่งมีเนินเขาที่เต็มไปด้วยสวนมะกอกและไร่องุ่นเล็กๆ เป็นฉากหลัง ซึ่งปรากฏอยู่บนโปสการ์ดหลายใบ กับบรรยากาศสีสันของท่าเรือ ล้อมรอบด้วยลานกว้างซึ่งมีบ้านสีพาสเทลเล็กๆ สีเหลือง เขียว และน้ำเงิน ในช่วงคริสตศตวรรษที่ 19 ขุนนางอังกฤษเริ่มทำให้ปอร์โตฟิโนเป็นที่นิยม โดยเชื่อว่ามีการนำพระบรมสารีริกธาตุของนักบุญจอร์จ นักบุญอุปถัมภ์ของอังกฤษ ไปประดิษฐานอยู่ในโบสถ์ประจำตำบลแห่งนี เมืองปอร์โตฟิโน่มีผู้คนอาศัยอยู่ในปอร์โตฟิโนเพียง 500 คนเท่านั้น มีทั้งครอบครัวชาวประมง เจ้าของร้านค้า โรงแรม หรือร้านอาหาร และมีบางคนที่ทำงานในเจนัว    จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองเจนัว “Genova” (ระยะทางประมาณ 44 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ     1 ชั่วโมง)   

  ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหาร
  ที่พัก HOLIDAY INN GENOVA ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

ที่พัก

  เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก 
นำท่านเดินทางสู่เมืองมิลาน “Milano” (ระยะทางประมาณ 138 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที) เมืองสำคัญในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ตั้งอยู่ในแคว้นที่ราบลอมบาร์ดี เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ ซึ่งมิลานถูกจัดให้เป็นเมืองแฟชั่นในลักษณะเดียวกับนิวยอร์ก ปารีส ลอนดอน และ โรม จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับมหาวิหารมิลาน “Milan Duomo” มหาวิหารประจำเมืองขนาดใหญ่แห่งนี้คือโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอิตาลีเด่นด้วยศิลปะแบบโกธิค ใช้เวลาในการก่อสร้างทั้งสิ้น 579 ปี ตั้งอยู่ในระดับความสูง 108.5 เมตรจากพื้นดินราย ล้อมด้วยยอดแหลมอีก135ยอดทำให้อาสนวิหารดูสง่าและแปลกพร้อมด้วยรูปแกะสลักจากหินอ่อนที่ประดับอยู่โดยรอบสลักอย่างวิจิตรบรรจงด้วย รูปปั้นนักบุญรูปเรื่องราวในพระคัมภีร์จำนวนมากประดับโดยรอบ               

  อิสระช้อปปิ้ง ที่ Galleria Vittorio Emanuele II ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งขวาของมหาวิหารมิลานเป็นห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่ที่สุดในอิตาลีโดยสร้างขึ้นในปี 1877 มากมายด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ในอาคารขนาด 4 ชั้น ทางเดินกว้างขวาง ที่โดดเด่นมากก็คือหลังคาทรงโดมเป็นกระจกใส ทำให้สามารถช้อปปิ้งได้ในทุกสภาพอากาศ   

  ***อิสระอาหารกลางวัน ตามอัธยาศัยเพื่อความต่อเนื่องในการช็อปปิ้ง 

  12.00 น. นำท่านเดินทางสู่ สนามบิน เพื่อทำ Tax Refund

  23.00 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินโดฮา ประเทศการ์ต้าร์ โดยสายการบิน การ์ต้าร์แอร์เวย์ เที่ยวบินที่  QR118 ( บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน) 

ที่พัก

  05.45 น. เดินทางถึงสนามบินโดฮา แวะเปลี่ยนเครื่อง

  08.10 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบิน การ์ต้าร์แอร์เวย์ เที่ยวบินที่  QR828 ( บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน) (6.55 ชม)

  19.05 น.  เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ

ที่พัก