ญี่ปุ่น คือหนึ่งในประเทศท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวกี่ทีก็ไม่มีเบื่อ เพราะเมืองสวย สถานที่ท่องเที่ยวปัง การเดินทางสะดวกอาหารการกินก็เริ่ด แถมญี่ปุ่นยังเป็นหนึ่งในประเทศที่สามารถไปเที่ยวได้ทุกเมือง ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะสายธรรมชาติ สายช้อป หรือสายชิล เพราะไม่ว่าคุณจะไปที่เมืองไหน ก็จะมีสิ่งน่าสนใจรออยู่แน่นอน
เวลา 21.00 น. พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ เคาน์เตอร์ สายการบินไทยแอร์เวย์ เจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับ ดูแลด้านเอกสาร เช็คอิน และสัมภาระในการเดินทาง เวลา 23.59 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินโอซาก้า
ประเทศญี่ปุ่น โดย สายการบินไทยแอร์เวย์ เที่ยวบินที่TG 622
ที่พัก -
เวลา 07.20 น. เดินทางถึง สนามบินโอซาก้า นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร เวลาญี่ปุ่น เร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง
วัดคัทซึโอจิ(Katsuoji Temple) หรือวัดดารูมะ หรือ คนญี่ปุ่นเรียกกันว่า วัดแห่งชัยชนะ เป็นวัดที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ซ่อนอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดโอซาก้า ติดกับเชิงเขา มีสวนสไตล์ญี่ปุ่นสวยๆขนาดใหญ่ให้เดินชม และยังเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียงของเมืองโอซาก้า
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
ศาลเจ้าสุมิโยชิ(SumiyoshiTaisha) เป็นศาลเจ้าที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรตที่ 3 เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งศาลเจ้าที่เก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ ที่นี่ไม่ใช่เพียงแค่ความเก่าแก่เท่านั้นแต่การรูปแบบสถาปัตยกรรมการสร้างก็ถือว่าโดดเด่นไม่แพ้ที่ไหนๆไม่ใช่แค่ในญี่ปุ่นสามารถพูดได้เลยว่าระดับเอเชียยังหาพบได้ยาก เพราะถูกสร้างด้วยรูปแบบที่เรียกว่า สุมิโยชิ-ซึคุริ (Sumiyoshi-zukuri) ที่จะมีหลังคาแบบทรงตรงๆ ต่างจากที่อื่นๆที่จะมีทรงโค้งๆ จั่วจะถูกตกแต่งด้วยไม้ที่ลักษณะไขว้กันคล้ายกับไม้กางเขนของศาสนาคริสต์ หากออกจะเป็นรูปกากบาทซะมากกว่า รวมทั้งยังมีไม้ขนาดเล็กๆวางเรียงกันตามแนวยาวทั่วทั้งหลังคา โดยเฉพาะตรงจุดที่ทางเข้าอยู่ด้านใต้หน้าจั่วของหลังคาและยังมีรั้วล้อมรอบ ปราสาทโอซาก้า(Osaka Castle) แลนด์มาร์กอันหนึ่งของเมืองโอซาก้าที่ไม่ว่าใครก็ต้องมาเยือนไม่อย่างนั้นเหมือนมาไม่ถึงนับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเมื่อมาเยือนยังเมืองโอซาก้าที่มีชื่อเสียงไม่ใช่เฉพาะระดังขังหวัด แต่มีชื่อเสียงระดับประเทศด้วยความยิ่งใหญ่อลังการของตัวปราสาทที่มีถึง 8 ชั้น ห้อมล้อมด้วยกำแพงหิน คูน้ำ ไปจนถึงสวนนิชิโนมารุ (Nishinomaru Garden)ที่ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ มองแล้วดูตัดกับความเป็นเมืองทันสมัยที่อยู่รายล้อมจากตึกอาคารทันสมัย ทำให้ความรู้สึกเหมือนเป็นปราสาทโบราณที่หลุดเข้ามาในยุคปัจจุบัน
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก OSAKA EXCEL HOTEL หรือเทียบเท่า
ที่พัก OSAKA EXCEL HOTEL หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
อาริมะออนเซ็น (Arima Onsen) เป็นเมืองออนเซ็นเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น มีความเป็นมายาวนานตั้งแต่ราว 1,000 กว่าปีก่อน ตั้งอยู่ในจังหวัดเฮียวโกะ (Hyogo) แม้พื้นที่ของอาริมะออนเซ็นจะมีขนาดกะทะรัด มีระยะทางราว 1 กิโลเมตรทั้งสี่ทิศ แต่ด้านในมีที่พักออนเซ็นและร้านค้าต่างๆ กระจุกอยู่อย่างหนาแน่น มีถนนเส้นหลักชื่อว่ายุโมโตะซากะที่เรียงรายไปด้วยร้านขายของฝากและร้านขายของจิปาถะทั้งสองฝั่งของถนน ถ้าเลี้ยวจากถนนหลักเข้าซอยเล็กๆ ไปก็ยังมีร้านค้าอีกมากมายซ่อนตัวอยู่ โกเบ พอตทาวเวอร์ (Kobe Port Tower) เป็นสัญญลักษณ์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมืองโกเบ เป็นอาคารชมวิวสีแดงตั้งอยู่ริมทะเล มีสถาปัตยกรรมแบบเกลียวเลียนแบบรูปทรงของกลองยาวของญี่ปุ่น และยังเป็นอาคารแรกของโลกที่มีรูปทรงแบบท่อ(Pipe Structure) อีกด้วย โกเบ พอตทาวเวอร์สูง 108 เมตร มีทั้งหมด 5 ชั้น ชั้นแรกเป็นที่จำหน่ายตั๋วและของที่ระลึกต่างๆ ชั้น 2 และ 3 จะเป็นร้านอาหาร ส่วนชั้น 4 และ 5 จะเป็นชั้นชมวิว ที่สามารถมองได้ 360 องศาเลย ทั้งตัวเมืองโกเบ, บริเวณท่าเรือ, ภูเขาร็อคโกะ(Rokko) และ อ่าวโอซาก้า
รับประทานอาหารกลางวันและอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ย่านชินไซบาชิ(Shinsaibashi) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองโอซาก้า (Osaka) เรียกได้ว่าเป็นย่านสุดฮอตของเหล่านักท่องเที่ยวเลยก็ว่าได้ บอกเลยว่าถ้ามาโอซาก้าแล้วไม่มาเที่ยวย่านนี้ถือว่ามาไม่ถึง เนื่องจากเป็นย่านศูนย์กลางการช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดของเมืองโอซาก้าและภูมิภาคคันไซแถมยังมีแลนด์มาร์กของเมืองอย่างเจ้าป้ายกลูลิโกะอยู่ที่ย่านนี้อีกด้วย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก OSAKA EXCEL HOTEL หรือเทียบเท่า
ที่พัก OSAKA EXCEL HOTEL หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
วัดเบียวโดอิน (Byodoin Temple) ถือว่าเป็นวัดที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโจโดที่โดดเด่นมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้รูปแบบนี้เป็นที่รู้จักทั่วไปในชื่อ Buddhist Pure Land architecture หากจะบอกว่าแตกต่างจากสถาปัตยกรรมที่เราเห็นในในวัดญี่ปุ่นอย่างไรบ้างนั้น ก็สามารถพูดได้ว่าเป็นการสร้างที่ยึดเอาแนวคิดทางพระพุทธศาสนามาเป็นคอนเซ็ปต์หลักแล้วมีการเชื่อมโยงกันให้เป็นหนึ่งเดียว ดูได้จากการจัดสวนที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นดินแดoบริสุทธิ์ต่างอุดมคติในศาสนาพุทธและยังได้เป็นต้นแบบการสร้างของวัดภายหลัง เดิมทีที่นี่นั้นไม่ได้เป็นวัดแต่เป็นบ้านพักต่างอากาศของผู้ทรงอิทธิพลในช่วงเวลานั้น
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
โกดังอิฐแดงสึรุกะ สิ่งที่น่าสนใจหลักในโกดังแห่งนี้ คือ แบบจำลงเหตุการณ์ขนาดใหญ่ ที่สร้างเมืองทสึรุกะอันรุ่งเรืองในช่วงต้นทศวรรษ 1900 ขึ้นมาใหม่พร้อมด้วยรายละเอียดมากมาย แบบจำลองนี้มีความยาว 27 เมตร กว้าง 7.5 เมตร ออกแบบตามแผนที่ของทสึรุกะในปีค.ศ. 1945 และหากคุณดูแบบจำลองนี้ใกล้ ๆ คุณจะมองเห็นแม้กระทั่งรถยนต์กำลังวิ่งไปตามถนนเส้นต่าง ๆ
วัดเออิเฮจิ(Eiheiji Temple) เป็นหนึ่งในวัดหลักของพระพุทธศาสนาเซนนิกายโซโตะ(Soto Sect of Zen Buddhism) ก่อตั้งขึ้นในปี 1244 โดย Dogen Zenji นักวิชาการทางพุทธศาสนาที่นำโซโตะเซนเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นในปี 1228 หลังจากที่ได้ศึกษาในประเทศจีนเป็นระยะเวลาหลายปี
นำท่านเข้าสู่ที่พัก AWARA ONSEN HOTEL หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
หลังจากรับประทานอาหารค่ำแล้ว ให้ท่านได้อาบน้ำแร่เพื่อสุขภาพ
เพิ่มวิตามินผิวให้กับร่างกาย ผ่อนคลายความเมื่อยล้าได้อย่างเต็มที่
ที่พัก AWARA ONSEN HOTEL หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
สวนเค็นโรคุเอ็น(Kenrokuen Garden) นับเป็นแลนมาร์กที่โดดเด่นมากๆของเมืองคานาซาวะ(Kanazawa)เพราะที่นี่นั้นได้ชื่อว่าติด1 ใน 3 ของสวนที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดของประเทศญี่ปุ่นโดยชื่อ“เค็นโรคุ” นั้นหมายความถึง สวนที่มีองค์ประกอบที่ดี 6 อย่างด้วยกัน ก็คือพื้นที่ที่กว้างขวาง, บรรยากาศที่เงียบสงบ, ความลงตัว, ความเป็นมาอันยาวนาน, แหล่งนํ้า, และทัศนียภาพล้อมรอบที่สวยงามตระการตา
เกาะโนโต(Noto Peninsula) ตั้งอยู่ในจังหวัดอิชิคะวะ (Ishikawa) ภูมิภาคโฮคุริคุ (Hokuriku) ที่ยื่นออกไปในทะเลญี่ปุ่น (Sea of Japan) ประมาณ 100 กิโลเมตร ซึ่งมีความสวยงามทางทัศนียภาพชายฝั่งทะเลโอะคุโนะโตะ (Okunoto Coast) และชายฝั่งโนะโตะคงโก (Notokongo Coast) พร้อมกับบรรยากาศแบบชนบท ด้วยสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติน่าตื่นตาตื่นใจที่สอดประสานรับกับวัฒนธรรมประเพณีอันงดงาม และยังได้รับการขนานนามว่าเป็นขุมทรัพย์แห่งอาหารรสเลิศมากมาย อีกทั้งยังมีแหล่งน้ำร้อนที่มีชื่อติดอันดับอยู่ในบริเวณนี้อีกด้วย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
ตลาดยามเช้าวาจิมะ (Wajima Morning Market) หรือที่คนท้องถิ่นมักจะเรียกกันว่า “อาสะอิจิ (Asaichi)” ที่สามารถแปลแบบตรงๆตัวว่าตลาดยามเช้า ก็คือแปลว่า ตลาดชาวของเมืองวาจิมะ(Wajima) นั่นเองไม่ว่าจะเป็นอาหารทะเลสด ผักแสนอร่อย ไปถึงงานฝีมือจากชาวบ้าน ที่เรียกว่า “วาจิมะ มะนูริ” หรือก็คืองานไม้เคลือบเงา ซึ่งเป็นสินค้าพื้นถิ่นของเมืองที่มีชื่อเสียงพิพิธภัณฑ์วาจิมะ คิริโกะ เทศกาลคิริโกะจัดขึ้นในหลายพื้นที่ในคาบสมุทรโนโตะในช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง ชมขบวนแห่โคมไฟแห่งคำมั่นสัญญาคิริโกะไปพร้อมกับศาลเคลื่อนที่มิโคจิที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ศิลปะวาจิมะคิริโกะ จากคิริโกะมากมายประดับประดาไปทั่วเครื่องเขินวาจิมะนูริไปจนถึงคิริโกะขนาดใหญ่ที่มีขนาดเท่าตึกสี่ชั้นในชั้นแรกจะมีร้านของที่ระลึก นักท่องเที่ยวสามารถหาซื้องานฝีมือพื้นบ้านที่ตั้งอยู่ตรงกลางเทศกาลคิริโกะเช่นเดียวกับสินค้าท้องถิ่นของคาบสมุทรโนโตะ ผลิตภัณฑ์ดั้งเดิมของพิพิธภัณฑ์ผสมผสานเครื่องเขินขึ้นชื่อระดับโลกไปกับเทศกาลพื้นเมือง เช่น คิริโกะที่ทำมาจากตะเกียบวาจิมะนูริและสายโทรศัพท์มือถือคิริโกะซึ่งเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมที่มีขายเฉพาะที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เท่านั้น
นำท่านเข้าสู่ที่พัก KOSHUEN HOTEL ONSEN หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
หลังจากรับประทานอาหารค่ำแล้ว ให้ท่านได้อาบน้ำแร่เพื่อสุขภาพ
เพิ่มวิตามินผิวให้กับร่างกาย ผ่อนคลายความเมื่อยล้าได้อย่างเต็มที่
ที่พัก KOSHUEN HOTEL ONSEN หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
วัดโซจิจิ(Sojiji Temple) ตั้งอยู่บนคาบสมุทรโนโตะ ครั้งหนึ่งเคยเป็นหนึ่งในวัดที่สำคัญทางพระพุทธศาสนานิกายเซนในประเทศญี่ปุ่น สร้างขึ้นในปี 1321 และได้รับการสนับสนุนจากจักรพรรดิโงะไดโกะ(Emperor Go-Daigo) จึงกลายเป็นวัดหลักของนิ กายโซโตะ(soto sect)
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หินเมโอโตะอิวะ (Meoto Iwa) เป็นหินสองก้อนในอำเภออิเสะจังหวัดมิเอะ เป็นโขดหินก้อนใหญ่และก้อนเล็กสองก้อนที่เชื่อมต่อกันด้วยเชือกชิเมะนาวะขนาดใหญ่ที่เรียกว่า โอชิเมะนาวะ (Oshime Nawa) โขดหินทั้งสองนี้มีลักษณะเหมือนคู่สามีภรรยาที่ยืนเคียงข้างกัน และเป็นจุดที่มีชื่อเสียงในฐานะแหล่งนำโชค
ถ้ำกัมมง (Ganmon Sea-Cave) เป็นถ้ำขนาดใหญ่ซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ปากถ้ำกว้าง 6 เมตร สูง 15 เมตร และลึกลงไปในทะเล 60 เมตรนั้น ซึ่งสามารถล่องเรือ(Ganmon Sightseeing Boat) ผ่านประตูหินกันม่อน ชมบรรยากาศรอบๆ ชมทัศนียภาพอันงดงามได้จากท้องทะเล
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก TOYAMA EXCEL HOTEL หรือเทียบเท่า
ที่พัก TOYAMA EXCEL HOTEL หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น เป็นเทือกเขาหลายแห่งในญี่ปุ่นซึ่งแบ่งเกาะหลักของฮอนชูออกเป็นสองส่วน ยอดเขาที่สูงตระหง่านอยู่เหนือเกาะฮอนชูตอนกลางเป็นเป้าหมายของการสักการะและการจาริกแสวงบุญมาช้านาน ชาวบ้านในท้องถิ่นใช้ประโยชน์จากภูเขาเหล่านี้มานานแล้วสำหรับวัตถุดิบ รวมทั้งไม้ซุง เชื้อเพลิง ปุ๋ย อาหารสัตว์ เนื้อสัตว์ แร่ธาตุ
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
กำแพงหิมะTateyama-Kurobe Alpine Route เป็นเส้นทางธรรมชาติที่ตั้งอยู่ระหว่างรอยต่อของจังหวัดโทยามะและจังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น พาดผ่านวิวทิวทัศน์เทือกเขาที่สลับซับซ้อนสวยงามเหมือนเทือกเขาแอลป์ จนได้ชื่อว่า เจแปนแอลป์จุดที่สูงที่สุดของ เจแปนแอลป์ คือ ยอดเขาทาเตยามะ มีความสูงประมาณ 3,015 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่งสูงเป็นอันดับสองในประเทศญี่ปุ่นรองจากภูเขาไฟฟูจิ แต่จุดสูงสุดที่นักท่องเที่ยวทั่วไปสามารถขึ้นไปได้อยู่ที่ มุโรโดะ (Murodo) ซึ่งมีความสูงประมาณ 2,450 เมตร จุดนี้เองที่มีไฮไลท์สำคัญที่เรียกว่า “Yuki no Otani” หรือ กำแพงหิมะ ญี่ปุ่น
นำท่านเข้าสู่ที่พัก KUROBE KANKO HOTEL หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
หลังจากรับประทานอาหารค่ำแล้ว ให้ท่านได้อาบน้ำแร่เพื่อสุขภาพ
เพิ่มวิตามินผิวให้กับร่างกาย ผ่อนคลายความเมื่อยล้าได้อย่างเต็มที่
ที่พัก KUROBE KANKO HOTEL หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ปราสาททะคะดะ(Takada Castle) และสวนสาธารณะรอบๆ เป็นไฮไลท์ท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดนีงะตะ(Niigata)มีความสวยงามแตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาลตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เพราะจะมีการจัดงานเทศกาลชมซากุระที่สวยงามของที่นี่ตั้งแต่เช้าจนดึกก็มีการประดับไฟด้วย จนมีชื่อเรียกว่าเป็น ถนนสายซากุระ (Sakura Road) ศาลเจ้ายาฮิโกะ(Yahiko Shrine) เป็นศาลเจ้าชินโตที่สวยงามและเก่าแก่ ใน จังหวัดนีงะตะ ประเทศญี่ปุ่น ศาลเจ้าแห่งนี้อุทิศให้กับเทพเจ้าแห่งเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม และเป็นศูนย์รวมจิตวิญญาณที่สำคัญของผู้คนในภูมิภาคนี้มานานหลายศตวรรษศาลเจ้าตั้งอยู่บนเนินเขายาฮิโกะ(Yahiko) และล้อมรอบด้วยทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม ห้องโถงหลักของศาลเจ้าเป็นโครงสร้างไม้แบบดั้งเดิมขนาดใหญ่ที่ประดับประดาด้วยงานแกะสลักที่ประณีตและมีรายละเอียดที่สลับซับซ้อน ห้องโถงหลักล้อมรอบด้วยศาลเจ้าขนาดเล็กอื่นๆ อีกหลายแห่ง ซึ่งแต่ละแห่งอุทิศให้กับเทพเจ้าหรือเทพธิดาองค์ใดองค์หนึ่งโดยเฉพาะ
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
Ponshukan เป็นร้านห้ามพลาดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบสาเกญี่ปุ่น ในนีงะตะ(Niigata) เพราะแค่ 500 เยนเราก็สามารถลิ้มรสสาเกหลากหลายประเภท ตั้งแต่แบรนด์ที่มีชื่อเสียงไปจนถึงผู้ผลิตงานฝีมือที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักจากทั่วทั้งจังหวัดนีงาตะ ง่ายๆเพียงแค่เลือกจากตู้หยอดเหรียญที่มีเรียงรายอย่างกับกาชาปอง รวมทั้งมีเกลือและมิโซะให้ลิ้มรสซึ่ งเป็นการจับคู่ที่ยอดเยี่ยมกับสาเก
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก NIIGATA ANA HOTEL หรือเทียบเท่า
ที่พัก NIIGATA ANA HOTEL หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เกาะซาโดะ ปัจจุบันนี้ซาโดะถือเป็นเกาะเล็กๆ ที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับการตีกลองโคโดะ และงานเฉลิมฉลองโลกประจำปีซึ่งเน้นเกี่ยวกับการตีกลอง มนุษยธรรม ธรรมชาติ และวัฒนธรรมแบบญี่ปุ่น ซาโดะอนเซ็น (น้ำพุร้อน) ถือเป็นจุดท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง เนื่องจากชนะรางวัลการผลิตสาเกจากข้าวที่ปลูกบนเกาะแห่งนี้ ข้าวจากที่นี้ปลูกโดยใช้วิธีการทำฟาร์มที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อปกป้องประชากรของนกไอบิสหงอนญี่ปุ่น (นกโทกิ) คนนิยมมาปั่นจักรยาน ตั้งแคมป์ และเล่นกีฬาทางน้ำ และคุณยังสามารถร่อนทองที่นี่ได้อีกด้วย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
เหมืองทองซาโดะ เหมืองทองคำและเงินของซะโดะเป็นชื่อเรียกแบบทั่วไปของเหมืองต่างๆบนเกาะซะโดะ ซึ่งหนึ่งในนั้นได้แก่ เหมืองทองคำและเงินอะอิกะวะ ซึ่งได้รับการพัฒนาอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่ ค.ศ. 1601 และสามารถผลิตทองคำและเงินได้จำนวนมหาศาลเป็นเวลากว่า 400 ปีจนกระทั่งหยุดการผลิตลงในปี ค.ศ. 1989 ที่นี่ทำการผลิตทุกสิ่งที่ได้จากการทำเหมืองไปจนถึงเหรียญโคบัง ในปัจจุบันพื้นที่ต่างๆได้ถูกพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้แก่ พื้นที่ประวัติศาสตร์เหมืองทองคำ ซึ่งคุณสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีการทำเหมืองและกระบวนการผลิต ไปพร้อมกับชมสถานที่ทางประวัติศาสตร์ เช่นปล่องเหมืองและอุปกรณ์การแต่งแร่
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก NIIGATA ANA HOTEL หรือเทียบเท่า
ที่พัก NIIGATA ANA HOTEL หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
SL Banetsu Monogatari คือรถไฟหัวจักรไอน้ำสุดวินเทจอันแสนหรูหราสง่างาม สมฉายา Kifujin ที่แปลว่าสตรีสูงศักดิ์ เพียงแค่ยืนมองไอน้ำของรถไฟสีดำขลับพวยพุ่งลอยขึ้นฟ้าจากชานชาลาก็ทำให้รู้สึกว่ากำลังจะได้เดินทางย้อนอดีต ที่สำคัญยังมีอะไรสนุกๆ ให้ทำหลายอย่าง รับรองว่านี่ไม่ใช่การเดินทางอันแสนน่าเบื่ออย่างแน่นอนความนิยมของรถไฟขบวนเก่าแก่นี้ยืนยันได้จากจำนวนคนมหาศาลที่พากันมามุงถ่ายรูปยามที่เธอจอดเทียบท่าอยู่ ณ ชานชาลา รวมไปถึงคนในชุมชนที่พาลูกหลานมายืนมองรถไฟเป็นกิจกรรมในครอบครัว และผู้คนที่ตั้งใจพกกล้องมารอเก็บภาพรถไฟขบวนนี้ตามสถานีต่างๆด้านนอกสง่างาม ด้านในแสนวินเทจ การได้นั่งชมวิวจากหน้าต่างรถไฟขบวนนี้ถือเป็นความเพลิดเพลินที่ทำให้หัวใจผ่อนคลายอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
วัดเอ็นโซจิ วัดเก่าแก่คู่เมืองยานาอิสุ มีประวัติยาวนานกว่า 1,200 ปี ต้นกำเนิดของตำนานวัวแดงอากะเบโกะ ย้อนไปเมื่อครั้งเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ทำให้พระอุโบสถถูกทำลายลง ชาวบ้านต่างช่วยกันซ่อมแซมวัดแห่งนี้แต่ด้วยวัสดุที่ก่อสร้างพวกเสาล้วนมีขนาดใหญ่ทำให้ลำบากเป็นอย่างมาก แต่แล้ววัวขนแดงก็ปรากฏขึ้นมาช่วยขนย้าย การก่อสร้างได้ดำเนินไปอย่างรวดเร็วและราบรื่นลุล่วงด้วยดี จึงสร้างรูปปั้นวัวขึ้นมาด้านหน้าพระอุโบสถ อีกทั้งภายในอุโบสถยังเป็นที่ประดิษฐานพระอักโษภยพุทธะองค์ใหญ่ ผู้คนเดินทางมาสักการะอย่างเนืองแน่น ด้วยศรัทธา ที่เต็มเปี่ยม เพื่อนำความสุขมาสู่ทุกคน
หมู่บ้านโออุจิจูคุ (Ouchi-Juku) ถูกสร้างขึ้นท่ามกลางแหล่งธรรมชาติที่สวยงามและเทือกเขาสูง ทางตอนใต้ของเมือง ไอสุวากามัตซึ (Aizu-Wakamatsu) ซึ่งเป็นเมืองสำคัญในยุคนั้น ลักษณะเป็นบ้านญี่ปุ่นแบบโบราณที่มุงหลังคาด้วยหญ้าแฝก เรียงรายเป็นระยะทางประมาณ 500 เมตร โดยมีบ้านทั้งหมดประมาณ 50 หลังคาเรือน ซึ่งในสมัยนั้น โออุจิจูคุ เป็นเหมือนที่พักแรมของผู้ที่เดินทางผ่านไปมา เนื่องจากตั้งขนาบข้างถนนหลักที่ใช้ในการสัญจรในสมัยนั้น ที่มีชื่อว่า ถนนชิโมสึเกะ ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างอาณาจักรไอสุและเมืองอิไมจิ และเนื่องจากการเดินทางในสมัยก่อนยังไม่สะดวกสบายดังเช่นทุกวันนี้ การเดินทางไปยังเมืองต่างๆ จึงเป็นการเดินเท้าล้วนๆ ไม่ว่าจะเป็น โชกุน ขุนนาง หรือพ่อค้าก็ตาม
นำท่านเข้าสู่ที่พัก NASU ONSEN HOTEL หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
หลังจากรับประทานอาหารค่ำแล้ว ให้ท่านได้อาบน้ำแร่เพื่อสุขภาพ
เพิ่มวิตามินผิวให้กับร่างกาย ผ่อนคลายความเมื่อยล้าได้อย่างเต็มที่
ที่พัก NASU ONSEN HOTEL หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
สวนดอกไม้ อาชิคางะ (Ashikaga Flower Park) เป็นหนึ่งในสวนดอกวิสทีเรียที่สวยงามและอลังการที่สุดของประเทศญี่ปุ่น บนพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 60 ไร่ ที่จัดแบ่งออกเป็นส่วนต่างๆมากมายให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชม โดยมีไฮไลท์อยู่ที่ อุโมงค์ต้นวิสทีเรียยาวเกือบ 100 เมตร และต้นวิสทีเรียขนาดใหญ่ยักษ์ อายุกว่า 140 ปีมาแล้ว อยู่ที่จังหวัดโทชิกิ(Tochigi) เมืองอาชิคางะ(Ashikaga) ห่างจากโตเกียวประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
ย่านเมืองเก่าคาวาโกเอะ(Kawagoe’s Warehouse District) นับเป็นย่านที่มีเสน่ห์และมีความเป็นเอกลักษณ์มากๆ โดยจะอยู่ทางทิศเหนือของสถานีรถไฟ Kawagoe ประมาณ 2 กิโลเมตร ถนนหลักจะยาวประมาณ 700 เมตร แต่ระหว่างสองข้างทางของถนนเส้นนี้จะมี ตรอกซอกซอย ที่สามารถเเดินเที่ยวเข้าไปได้อีกซึ่งสิ่งที่ทำให้ย่านเมืองเก่าแห่งนี้ฮอตฮิตในหมู่นักท่องเที่ยวก็ตรงที่ทั่วทั้งย่านเต็มไปด้วยบ้านเรือนสไตล์สมัยเอโดะตลอดแนวยาวสองข้างทาง ที่บอกเลยว่าดูแลดีมากๆจนน่าเหลือเชื่ออย่างกับหลุดเข้ามาในสมัยนั้นเลยในสมัยก่อนเนื่องจากเมืองคาวาโกเอะเจริญรุ่งเรื่องทางด้านการค้าขายเป็นอย่างมากเปรียบได้กับโตเกียวในปัจจุบันเลยทีเดียว
ย่านชินจูกุ(Shinjuku) แหล่งบันเทิงและแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ใจกลางเมืองหลวงโตเกียว เป็นศูนย์รวมแฟชั่นเก๋ๆ เท่ห์ๆ ของเหล่าบรรดาแฟชั่นนิสต้า มีสถานีรถไฟชินจูกุที่เป็นเหมือนศูนย์กลางของของย่านนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานีที่คึกคักที่สุดในญี่ปุ่น ในแต่ละวันมีผู้คนจำนวนมากถึง 2.5 ล้านคนที่ใช้บริการสถานีแห่งนี้ ทางด้านตะวันตกย่านนี้ที่เต็มไปด้วยตึกระฟ้าหลายอาคาร มีทั้งโรงแรมชั้น ตึกแฝดที่เป็นสำนักงานรัฐบาลซึ่งด้านบนของตึกนี้เปิดให้ประชาชมเข้าชมฟรี ส่วนทางด้านตะวันออกนั้นคือ คาบูกิโชะ เป็นย่านที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า, ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่อย่าง Big Camera และย่านบันเทิงยามราตรีที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก SHINJUKU PRINCE HOTEL หรือเทียบเท่า
ที่พัก SHINJUKU PRINCE HOTEL หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ย่านชิบูย่า(Shibuya) แหล่งช้อปปิ้งและเอนเตอร์เทนเม้นท์สุดชิคขนาดใหญ่ใจกลางโตเกียว เป็นหนึ่งในย่านที่คึกคักมีผู้คนพลุกพล่านตลอดเวลา ในบริเวณนี้ถือว่าเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่นิยมของวัยรุ่นญี่ปุ่นเนื่องจากมีห้างสรรพสินค้าจำนวนมาก ร้านอาหารเก๋ๆก็มีอยู่ไม่น้อย เนื่องจากเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงทำให้มีร้านเสื้อผ้าแฟชั่นหรือดีไซน์เนอร์ที่ออกแบบเสื้อผ้าเองและเปิดร้านบริเซรนี้ สามารถสร้างแบรนด์สินค้าแฟชั่นของตนเองจนโด่งดังได้หลายต่อหลายแบรนด์
ถนนทาเคชิตะ (Takeshita Dori) หรือที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติทั่วไปในชื่อว่า ถนนแฟชั่นฮาราจูกุ นั่นเองเนื่องจากเป็นถนนที่เต็มไปด้วยร้านค้าจำหน่ายสินค้าแฟชั่นที่เรียงรายไปตลอดสองฝั่งถนน อีกทั้งยังมีร้านขายสินค้าต่างๆ ของไอดอลและดารานักร้อง J-Pop และคาเฟ่น่ารักๆอีกเพียบนั่นก็เพราะความโด่งดังของถนนย่านนี้ที่พูดได้เลยว่าเป็นแหล่งรวมของเหล่าวัยรุ่นคูลๆของกรงโตเกียว ที่แต่ละคนนั้นแต่งตัวไม่มีใครยอมใคร ช่วงไหนสไตล์อะไรฮอตมาดูย่านนี้ได้เลย
อิสระรับประทานอาหารกลางวันและค่ำ
นำท่านเข้าสู่ที่พัก SHINJUKU PRINCE HOTEL หรือเทียบเท่า
ที่พัก SHINJUKU PRINCE HOTEL หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
วัดอาซากุซ่า(Asakusa Kannon Temple) เป็นวัดใหญ่ในย่านอาซากุสะและ) เป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่และเป็นที่นิยมมากที่สุดวัดหนึ่งของเมืองโตเกียว โดยจะมีถนนนากามิเสะที่เป็นถนนยาวเข้าสู่พื้นที่ภายในวัดที่จะเต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย วัดที่ขึ้นชื่อว่าเก่าแก่มากที่สุดของเมืองโตเกียวแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเสร็จเมื่อประมาณปี ค.ศ. 645 ตามตำนานเล่าว่าเมื่อประมาณปี 628 สองพี่น้องได้ออกเรือไปตกปลา และตกรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมได้ที่แม่น้ำสุมิดะ (Sumida River) และแม้ว่าพวกเขาจะพยายามทิ้งรูปปั้นกลับลงสู่แม่น้ำเท่าไหร่ก็ตาม รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมก็จะกลับมาหาพวกเขาอยู่เสมอ จึงได้มีการสร้างวัดนี้ขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานของรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม และกลายมาเป็นวัดที่ฮอตฮอตอันดับหนึ่งของเมืองโตเกียวอย่างในปัจจุบันนี่เอง
ตลาดปลาซึกิจิ นับเป็นที่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของญี่ปุ่น อีกทั้งยังเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นหนึ่งในตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดในโลกจากการที่มีการซื้อขายสินค้าทะเลกว่า 2,000 ตันต่อวัน ภายในตลาดแบ่งออกเป็น2 ส่วนใหญ่ๆ คือส่วนภายนอกซึ่งมีร้านค้าปลีกและร้านอาหารตั้งเรียงรายเป็นจำนวนมาก และส่วนภายในซึ่งเป็นบริเวณที่ร้านค้าส่งใช้เจรจาธุรกิจและเป็นจุดที่มีการประมูลปลาทูน่าที่มีชื่อเสียง ความที่มีสินค้าจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นปลาทะเล อาหารท ะเลสดๆ ไปจนถึงผักผลไม้ จึงทำให้ตลาดแห่งนี้คึกคักคนเยอะกันตั้งแต่เช้าเลยทีเดียว
ชิซุย พรีเมี่ยม เอาท์เล็ท(Shisui Premium Outlet) เป็นเอาท์เล็ทที่เพิ่งเปิดเมื่อปี 2013 อยู่ใกล้กับสนามบินนาริตะ เป็นบริษัทเดียวกับ Gotemba Premium Outlet ภายในมีร้านค้าที่เป็นแบรนด์ทั้งจากญี่ปุ่นและจากต่างประเทศ มีร้านค้าอยู่ประมาณ 180 ร้านค้า
อิสระรับประทานอาหารกลางวันและค่ำ
นำท่านเข้าสู่ที่พัก NARITA ANA HOTEL หรือเทียบเท่า
ที่พัก NARITA ANA HOTEL หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ถึงเวลาอันสมควร นำท่านเดินทางไปสู่ สนามบินนาริตะ
เวลา 09.45 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพ ฯ โดยสายการบินไทยแอร์เวย์เที่ยวบินที่ TG 641
เวลา 15.15 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพ ฯ โดยสวัสดิภาพพร้อมกับความประทับใจ
ที่พัก -