ชื่อของประเทศ อินเดีย (India) กำลังเป๋็นอีกประเทศที่คนไทยเริ่มให้ความสนใจกันมากขึ้น เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้เห็นภาพความสวยงามของอินเดียผ่านตากันมาบ้างแล้ว ซึ่งทัวร์ครับเองก็เคยลงเรื่องราวของที่เที่ยวอินเดียให้สายเที่ยวได้ชมกันไปบ้างแล้ว
11.50 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ประตู7 เคาน์เตอร์Q สายการบิน Air Vistara โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
(น้ำหนักสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่อง 30 กิโลกรัม , ถือขึ้นเครื่อง 7 กิโลกรัม./ได้1ใบ)
14.50 น. โดยสายการบิน AIR VISTARA เที่ยวบินที่ UK124 เหินฟ้าสู่ มุมไม
รับประทานอาหารอาหารค่ำ(1)บนเครื่อง
17.40 น. เดินทางถึง CHHATRAPATI SHIVAJI INTERNATIONAL AIRPORT (สนามบินมุมไบ) ประเทศอินเดีย(เวลาที่อินเดีย ช้ากว่าประเทศไทย 1.30 ชั่วโมง) หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว นำท่านเดินทางสู่ที่พัก
ที่พัก Suba Galaxy
07.00 น. รับประทานอาหารเช้า(2)ที่ ห้องอาหารของโรงแรม
08.00 น. เดินทางสู่ เมืองโมเรกาวน์ (Morgaon) (ระยะทาง 225 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทาง 5 ชั่วโมง) คำว่า "โมเร" หรือ "มยุรี" หมายถึงนกยูง ส่วนคำว่า "กาวน์" หมายถึงหมู่บ้าน เพราะในอดีตหมู่บ้านแถบนี้เป็นที่อยู่อาศัยของนกยูงเป็นจำนวนมาก ชม วัดศรีโมเรศวา (Sri Moreshwar) ตามตำนานเล่าว่าพระพิฆเนศเสด็จลงมาครั้งแรกเพื่อสังหารสินธุ โอรสของกษัตริย์จันทระปานี ซึ่งถือตัวว่าได้รับพรจากสุริยเทพให้เป็นอมตะ จึงรังแกและฆ่าฟันเหล่าเทวดา พระพิฆเนศประทับบนหลังนกยูงเสด็จลงมาสังหารสินธุ หลังจากนั้นเทวดาจึงขอพระพิฆเนศประทับอยู่ที่นี่ตลอดไป พระพิฆเนศจึงเนรมิตเทวรูปของพระองค์เองขึ้นที่นี่
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน(3)
บ่าย ออกเดินทางสู่ เมืองเทอูร์ (Theur) (ระยะทาง 28 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทาง 1 ชั่วโมง) เพื่อนำท่านไปยัง วัดศรีจินดามณี (Sri Chintamani) สร้างโดยพระราชโอรสของพระเจ้าโมรยะ โกสารี เพื่อเฉลิมฉลองที่พระบิดาทรงบรรลุสัจธรรมที่เมืองนี้ ณ ริมฝั่งแม่น้ำมูลามุทา ตามเทวตำนานเชื่อกันว่าเจ้าชายกานา โอรสของกษัตริย์อภิจิตแย่งชิงแก้วจินดามณี(แก้วสารพัดนึก) จากฤาษีกาปิละไป ฤาษีกาปิละจึงอ้อนวอนขอให้พระพิฆเนศช่วยเหลือ ต่อมาเมื่อฤาษีกาปิละ รบชนะและได้แก้วจินดามณีคืนกลับมา จึงอธิษฐานขอให้พระพิฆเนศประทับอยู่ที่นี่ตลอดไป และถวายแก้วจินดามณีนั้นประดับแด่องค์พระพิฆเนศ
เดินทางสู่ Ahmednagar อาเมดนาคาร์(ระยะทาง 113 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทาง 3 ชั่วโมง) เมืองที่เป็นฐานทัพของอินเดียทางทิศตะวันตกของอินเดีย
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ(4)ที่ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก AURAS Hotel
07.00 น. รับประทานอาหารเช้า(5)ที่ ห้องอาหารของโรงแรม
08.00 น. นำท่านเดินทางสู่ ถ้ำเอลโลล่า (ระยะทาง 137 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทาง 3 ชั่วโมง)
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน(6)
บ่าย ชม ELLORA CAVES (ถ้ำจะปิดให้บริการทุกวันอังคาร ) ระหว่างทางผ่านชม “ป้อมเดาลาตาบัด” ป้อมปราการโบราณรอบภูเขาดัลคีรี ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของราชวงศ์ยารวะและถูกกษัตริย์อลาอุดดินคัลจิ ชาวมุสลิมยึดได้ใน พ.ศ. 1839 กลายเป็นเมืองหลวงอินเดียภายใต้การปกครองของกษัตริย์มุสลิมอยู่พักหนึ่ง ก่อนถูกทิ้งร้างย้ายไปสร้างเมืองออรังกาบัด ชมซากมัสยิดที่ยังเหลือซากเสาจำนวน 106 ต้น ชมป้อมปราการ พระราชวังบนเสาอายุกว่า 700 ปี ถ้ำเอลโลล่า ชมความงามที่ยิ่งใหญ่ของหมู่ถ้ำที่เกิดจากการเจาะแกะสลักภูเขาหินทั้งลูกด้วยฝีมือสาวก 3 ศาสนาที่แข่งขันกันคือ ศาสนาฮินดู พุทธ และเชน ถ้ำเอลโลร่ามีทั้งหมด 34 ถ้ำ โดยมีการแบ่งออกเป็น ถ้ำทางพุทธศาสนา 12 ถ้ำ ถัดมา 17 ถ้ำคือ เทวาลัยของชาวฮินดู และ วิหารถ้ำลักธิ เชน 5 ถ้ำ สถานที่แห่งนี้ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ในปี 1983 ถือเป็นถ้ำที่เกิดจากการแกะสลักภูเขาทั้งลูกออกเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับ ศาสนา นำท่านกราบนมัสการ พระพุทธรูปที่มีอายุมากกว่า 1,200 ปี ภายในถ้ำยังมีภาพแกะสลักอย่างวิจิตรบรรจงอีกมากมาย อาทิ องค์พระศิวะ พระพรหม พระนารายณ์ พระพิฆเนศ ช้างเอราวัณ อีกทั้งภาพของนางอัปสร เป็นต้น ถ้ำที่ 16 ถือเป็นถ้ำที่อลังการที่สุด เป็นที่ที่มีศิวลึงค์เป็นจุดศูนย์กลาง จนได้เวลาเดินทางสู่ ออรังกาบัด (ระยะทาง 35 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทาง 1 ชั่วโมง)
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ(7)ที่ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก CLICK
08.00 น. รับประทานอาหารเช้า(8)ที่ ห้องอาหารของโรงแรม
ออกเดินทางสู่ ถ้ำอจันต้า ห่างจากเมืองออรังกาบาดไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ระยะทาง 102 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทาง 2 ชั่วโมง ระหว่างทาง ชมวิวทิวทัศน์
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน(9)
ระหว่างเที่ยวถ้ำ นำท่านชม ถ้ำอะจันตา ( AJANTA CAVE ) ถือเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอินเดียถ้ำอะจันตา“ ถ้ำมรดกโลก”(ถ้ำจะทำการปิดให้บริการทุกวันจันทร์) แบ่งออกเป็น2ยุคโดยในยุคแรกประมาณศตวรรษที่2ก่อนคริสตศักราช
รูปลักษณะของ” วิหาร” ( วัตถุประสงค์เพื่อปฏิบัติสมาธิ–ของเหล่าพระภิกษุ) และ“เจดีย์“ เพื่ออุทิศแด่องค์พระพุทธเจ้า) มีหลักฐานเป็นภาพเขียนสีน้ำบนผนังที่ถ่ายทอดถึงเรื่องราวชาดกเข้าใจถึงพุทธประวัติเพราะมีการใช้ดอกบัวเป็นสัญลักษณ์แทนพระพุทธเจ้าโดยตามความเชื่อของชาวเถรวาทยุคที่สองประมาณคริสศตวรรษที่ 5-6 ได้มีการเพิ่มเติมโดยแกะสลักพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์หลายพระองค์บนเจดีย์และบนผนังวิหารในแบบความเชื่อแบบใหม่หรือตามแบบของชาวมหายานถ้ำอะจันตา ( AJANTA CAVES ) ถือเป็นถ้ำที่มีการเจาะเป็นปราสาทที่มีขนาดใหญ่จนได้รับเป็น สิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8 ของโลกที่มีอายุมากกว่า2000ปีและภายในถ้ำก็มีถ้ำมหึมาขนาดใหญ่อีกกว่า30ถ้ำ โดยผนังถ้ำมีภาพจิตกรรมฝาผนังที่มีอายุนับกว่า1200 ปี
ถ้ำเบอร์2เป็นถ้ำของฝ่ายมหายานมีชื่อเสียงด้านภาพวาด ส่วนใหญ่เป็นภาพดอกบัว ถ้ำเบอร์3เป็นถ้ำเล็กๆ ไม่มีค่อยมีอะไรน่าสนใจ
ถ้ำเบอร์ 4 มีความกว้างใหญ่ที่สุดในบรรดาถ้ำทั้งหมด ด้านหน้ามีรูปแกะสลักพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร อีกทั้งพระพุทธรูปปางประทับยืน ส่วน
ถ้ำเบอร์ 5 ยังทำการสร้างไม่เสร็จ
ถ้ำเบอร์ 6 มีพระพุทธรูปปางแสดงปฐมเทศนาที่มีพระสรีระแตกต่างจากถ้ำอื่นอีกทั้งเป็นหินชนิดเดียวกับถ้ำรอบๆ องค์พระพุทธรูปมีภาพวาดที่ผนังและเพดาน ทางด้านซ้าย ของถ้ำมีตัวหนังสือเขียนไว้ว่า MUSICAL PILLARS (ใช้สันมือกระแทกหรือเคาะที่กลางเสาจะมีเสียงดังกังวาลออกมา)
ถ้ำเบอร์ 7 ด้านในของถ้ำ มีพระพุทธรูปแกะสลักที่ผนังถ้ำ ลักษณะคล้ายกับครั้งที่พระพุทธองค์ทรงแสดง ยมกปาฏิหาริย์ แตกต่างจากถ้ำเบอร์ 2 ตรงที่เป็นภาพวาด แต่ที่ถ้ำเบอร์ 7 นี้แกะสลักหินแทน อีกทั้งตรงกลาง ประดิษฐานพระประธานรายล้อมไปด้วยพระพุทธรูป ปางประทับยืน และ เหล่าเทพเทวดา
ถ้ำเบอร์ 9 และ 10 เป็นถ้ำของเถรวาท ภายในเป็นห้องโถงสูงยาว มีช่องรับแสงอยู่ด้านบน
ถ้ำเบอร์ 11-12-13 ส่วนใหญ่ใช้เป็นที่พักอาศัยไม่มีรายละเอียด เพียงแต่ที่ถ้ำเบอร์ 12 มีองค์พระประธาน
ถ้ำเบอร์ 14 เป็นถ้ำเล็กๆ ที่นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันมาใช้เป็นสำนักงาน
ถ้ำเบอร์ 16 เป็นของฝ่าย มหายาน มีภาพ พระนางชนบทกัลยานี ที่เพิ่งแต่งงานกับ พระนันทะ กำลังเฝ้ารอพระสวามีกลับมาด้วยความโศกเศร้า ภายหลังจากที่พระพุทธ องค์ทรงพาพระนันทะไปบวชภายในยังมีพระประธานในถ้ำเช่นเดียวกัน ฯลฯ ...จนถึงถ้ำสุดท้าย
ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางกลับเมืองออรังกาบาดเส้นทางเดิม เพื่อชม บีบี กา มักบารา (BiBiKa Maqbara) สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรัก สร้างโดยพระโอรสของออรังเซบ ทรงสร้างเพื่อรำลึกถึงพระมารดา พระนาง บีกัมราเบีย อุเด ดาราณี สถาปัตยกรรมลักษณะคล้ายทัชมาฮาล จนได้เวลาเดินทางกลับออรังกาบัด
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ(10)ที่ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก โรงแรม Click
07.00 น. รับประทานอาหารเช้า(11)ที่ ห้องอาหารของโรงแรม
ออกเดินทางสู่ PUNE ปูเน่ (ระยะทาง 236 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทาง 5 ชั่วโมง) เป็นเมืองเก่าแก่และเมืองที่สำคัญทางวัฒนธรรมของอินเดียมาตั้งแต่ในมัยโบราณและชาวอินเดียเชื่อกันว่า เมืองปูเนแห่งนี้เป็นเมืองแห่งพระพิฆเนศ นั้นก็คือปาฎิหารการเกิดขึ้นของพระพิฆเนศที่อยู่ในเมืองเล็กๆรอบเมืองปูเนถึง 8 ปาง ซึ่งเป็นพระพิฆเนศที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ "เมืองปูเนจึงเป็นเมืองเส้นทางมหายาตรา สักการะพระพิฆเนศองค์มหาเทพแห่งความสำเร็จ
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน(12)ที่ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางไปยังที่ตั้ง เทวาลัยพระพิฆเนศวร ดั๊กดูเศรษฐ์ พระพิฆเนศประจำเมือง ปูเน่ องค์พระพิฆเนศมีการประดับประดาด้วยเครื่องประดับที่ทำจากทองคำและเพชรนิลจินดาทั่วทั้งองค์ จนได้รับการกล่าวถึงว่าเป็น "พระพิฆเนศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก จนได้เวลาเดินทางสู่ Lonavala โลนาวาลา (ระยะทาง 66 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทาง 1 ชั่วโมง) เป็นชื่อขุนเขา ที่อยู่ในเขตปูเน่ รัฐมหาราษฎระ เป็นเมืองสำคัญที่อยู่ในเส้นทางระหว่างเมืองปูเน่และมุมไบ มีทางด่วนระหว่างปูเน่-มุมไบพาดผ่าน สถานที่นี้เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาสถานที่เงียบสงบ เป็นที่รู้จักจากขนมยอดนิยมที่เรียกว่า chikki' ทุกปีมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเยี่ยมชมสถานที่อันแสนผ่อนคลายแห่งนี้โดยเฉพาะในช่วงมรสุม ในช่วงฤดูมรสุม สถานีบนเนินเขาแห่งนี้จะมีชีวิตชีวาและตื่นตัวมากขึ้นด้วยนักท่องเที่ยวที่คลั่งไคล้มากมาย Lonavala ได้ชื่อมาจาก 'Len' และ 'Avali' ซึ่งแปลว่า 'ที่พำนักของหิน' โลนาวาลามีชื่อเสียงเลื่องลือในการผลิตขนมถั่วตัด ชม Lonavala lake ทะเลสาบรายล้อมไปด้วยความงามตามธรรมชาติ ผ่าน duke’s nose ภูเขาที่มีรูปทรงคล้ายจมูก ดูแปลกประหลาด นำท่านสักการะ องค์พระศิวะ และ พระแม่อุมาขี่เสือ ณ narayani dham temple วัดประจำเมืองโลนาวาลา
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ(13)ที่ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก MAYUR RETREAT Hotel
07.00 น. รับประทานอาหารเช้า(14)ที่ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางสู่ MUMBAI มุมไบ(ระยะทาง 110 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทาง 2.30 ชั่วโมง) โลนาวาลา (LONAVALA) เป็นชื่อขุนเขา ที่อยู่ในเขตปูเน่ รัฐมหาราษฎระ เป็นเมืองสำคัญที่อยู่ในเส้นทางระหว่างเมืองปูเน่และมุมไบ มีทางด่วนระหว่างปูเน่-มุมไบพาดผ่าน สถานที่นี้เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาสถานที่เงียบสงบ เป็นที่รู้จักจากขนมยอดนิยมที่เรียกว่า CHIKKI' ทุกปีมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเยี่ยมชมสถานที่อันแสนผ่อนคลายแห่งนี้โดยเฉพาะในช่วงมรสุม ในช่วงฤดูมรสุม สถานีบนเนินเขาแห่งนี้จะมีชีวิตชีวาและตื่นตัวมากขึ้นด้วยนักท่องเที่ยวที่คลั่งไคล้มากมาย LONAVALA ได้ชื่อมาจาก 'LEN' และ 'AVALI' ซึ่งแปลว่า 'ที่พำนักของหิน' โลนาวาลามีชื่อเสียงเลื่องลือในการผลิตขนมถั่วตัด ผ่าน หุบเขาแคนดาลา (KHANDALA VALLEY) หุบเขาที่ล้อมรอบด้วยยอดเขา TIGER’S LEAP } RAJMACHI POINT } LION POINT น้ำตก KUNE FALLS ทุ่งดอกไม้
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน(15)ที่ ภัตตาคาร ASIA KITCHEN(อาหารจีน)
บ่าย สักการะ SIDDHIVINAYAK TEMPLE วัดดังแห่งอินเดีย เป็นที่ตั้งขององค์พระพิฆเนศ ที่ต้องมาขอพร นำท่านสักการะ วัดมหาลักษมี (MAHALAKSHMI TEMPLE) ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่แห่งเมืองกลหาปุระ สร้างเพื่อถวายพระนางมหาลักษมี เทพแห่งความเจริญรุ่งเรือง ซึ่งชาวบ้านรู้จักกันในนาม AMBA BAI วัดนี้ถูกสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้า KARANDEV แห่งราชวงศ์ CHALUKYA ในศตวรรษที่ 7(วัดนี้ค่อนข้างเคร่งเรื่องการถ่ายรูป ห้ามถ่ายรูปทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ)
นำท่านเดินไปยังท่าน้ำตรง GATEWAY OF INDIA ถ่ายรูปแลนด์มาร์คบริเวณนี้ เช่น TAJ MAHAL PALACE ผ่านชม THE PRINCE OF WALES MUSEUM OF WESTERN INDIA หรือ“พิพิธภัณฑ์แห่ง เวลล์”และ “มหาวิทยาลัยบอมเบย์ (UNIVERSITY OF BOMBAY) ซึ่งเป็นอาคารที่มีสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคที่ สวยงาม นำท่านแวะถ่ายรูปกับ “สถานีรถไฟฉัตราปตีศิวะจิ” หรือ VICTORIA TERMINUS สถานีรถไฟ กลาง เมืองมุมไบ ซึ่งตั้งชื่อตามพระนามของพระราชินีวิคตอเรียเป็นสถาปัตยกรรมแบบโกธิค ที่ได้รับการ ออกแบบโดย MR. F.W. STEVENS สถาปนิกชาวอังกฤษซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก จากนั้น นำ ชม “น้ำพุเทพีฟลอร่า” (FLORA FOUNTAIN) น้ำพุที่เป็นรูปปั้นแกะสลักของเทพีฟลอร่า ที่งดงามตาม สถาปัตยกรรมกรีก ตั้งอยู่ใจกลางเมืองมุมไบ
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ(16)ที่ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก SUBA GALAXY
05.00 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินมุมไบ
รับประทานอาหารเช้า(17)SET BOX
07.50 น. โดยสายการบิน AIR VISTARA เที่ยวบินที่ UK123 เหินฟ้าสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ
รับประทานอาหารกลางวัน(18) บนเครื่อง
13.35 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ ... พร้อมความประทับใจ
หมายเหตุ :
-เวลาที่ปรากฏในโปรแกรมกับการปฏิบัติจริงอาจแตกต่างกันเล็กน้อย ขอให้ท่านรับทราบคำแนะนำการเปลี่ยนแปลงการนัด หมายเวลาในการทำกิจกรรมอีกครั้งจากหัวหน้าทัวร์
-บริษัทอาจทำการเปลี่ยนแปลงรายการ ได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม แต่จะยึดผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาวะของสายการบิน โรงแรมที่พัก ภูมิอากาศ ภัยธรรมชาติ การนัดหยุดงานฯลฯ ตลอดจนสภาวะทาง เศรษฐกิจและสถานการณ์ทางการเมืองภายใน อันเป็นสาเหตุให้ต้องเลื่อนการเดินทางหรือไม่สามารถจัดพาคณะท่องเที่ยว ได้ตามรายการ
* ทางบริษัทฯ เงินค่ามัดจำเป็นจำนวนเงิน 20,000 บาท ต่อผู้โดยสารหนึ่งท่าน เพื่อยืนยันการเดินทางพร้อม
เงื่อนไขการให้บริการ (ที่ท่านควรทราบก่อนสำรองที่นั่ง)
* กรณียกเลิกก่อนการเดินทาง 30 วันขึ้นไป **ช่วงที่ไม่ใช่เทศกาลหรือวันหยุดยาว** คืนเงินทั้งหมดมิฉะนั้น
ทางบริษัทฯ จะขอสงวนสิทธิ์ใน การคืนค่ามัดจำทั้งหมด**(ยกเว้น กรุ๊ปที่มีการการันตีค่ามัดจำกับสายการบิน
หรือกรุ๊ปที่มีการการันตีค่ามัดจำที่พัก โดยตรงหรือโดยการผ่านตัวแทนในประเทศหรือต่างประเทศและไม่อาจ
ขอคืนเงินได้)**
* กรณียกเลิกก่อนการเดินทาง 30 วัน **เฉพาะช่วงเทศกาลหรือวันหยุดยาว** เก็บค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง
ทั้งหมด
* กรณียกเลิกก่อนการเดินทาง 15 วัน เก็บค่าใช้จ่าย 50% ของราคาทัวร์
* กรณียกเลิกก่อนการเดินทาง 7 วัน เก็บค่าใช้จ่าย 100% ของราคาทัวร์
* บริษัทเป็นเพียงตัวแทนการท่องเที่ยว สายการบิน และตัวแทนการท่องเที่ยวในต่างประเทศซึ่งไม่อาจ
รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดจาก การที่ท่านถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าออกเมือง อันเนื่องมาจากการที่ท่านมี
เอกสารเดินทางที่ไม่ถูกต้อง หรือมีสิ่งผิดกฎหมายไว้ในครอบครอง หรือ ภัยธรรมชาติ, ภัยการเมืองฯลฯ หรือ
เหตุสุดวิสัย ที่ทางบริษัทฯไม่สามารถควบคุมได้หรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกิดขึ้นทั้งทางตรงหรือทางอ้อม เช่น
การเจ็บป่วย ถูกทำร้าย หรือจากอุบัติเหตุต่าง ๆ
กรุณาอ่านหมายเหตุให้ละเอียดทั้ง 7 ข้อ
1. บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบต่อค่าชดเชยความเสียหาย ไม่ว่ากรณีที่กองตรวจคนเข้าเมืองของไทย
ไม่อนุญาตให้เดินทางออกหรือกองตรวจคนเข้าเมืองของแต่ละประเทศไม่อนุญาตให้เข้าเมือง
2. บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการที่จะไม่รับผิดชอบต่อค่าชดเชยความเสียหาย อันเกิดจากเหตุสุดวิสัยที่ทางบริษัทฯ
ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น การนัดหยุดงาน, จลาจล, การล่าช้าหรือยกเลิกของเที่ยวบิน
3. บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมรายการท่องเที่ยว โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
4. บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงอัตราค่าบริการ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
5.การไม่รับประทานอาหารบางมื้อไม่เที่ยวตามรายการไม่สามารถขอหักค่าบริการคืนได้เพราะการชำระค่าทัวร์
เป็นไปในลักษณะเหมาจ่าย
6.ตั๋วเครื่องบินเมื่อออกตั๋วแล้วไม่สามารถ REFUND ได้ทุกกรณี โดยเงื่อนไขของสายการบินกำหนด
7. กรณีที่คณะไม่ครบจำนวน 15 ท่าน ทางบริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการงดออกเดินทางโดยทางบริษัทฯ จะแจ้งให้
ท่านทราบล่วงหน้า 14 วันก่อการเดินทาง
*** ในกรณีที่ลูกค้าต้องออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ก่อนทุกครั้ง
มิฉะนั้นทางบริษัทฯ จะไม่ขอรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น *** เนื่องจากการวางแปลนห้องพักของแต่ละ
โรงแรมแตกต่างกัน จึงอาจทำให้ห้องพักแบบห้องเดี่ยว (SINGLE) และห้องคู่ (TWIN/DOUBLE) และ
ห้องพักแบบ 3 ท่าน/3 เตียง (TRIPLE ROOM) ห้องพักอาจจะไม่ติดกันข้อความซึ่งถือเป็นสาระ
สำหรับท่านผู้มีเกียรติซึ่งร่วมเดินทางทางบริษัทฯ เป็นตัวแทนในการจัดนำสัมมนา และการเดินทางที่มีความ
ชำนาญ โดยจัดหาโรงแรมที่พัก อาหาร ยานพาหนะและสถานที่ท่องเที่ยวพร้อมทั้งการสัมมนา ดูงาน เพื่อ
ความสะดวกสบาย และเกิดประโยชน์สูงสุดในการเดินทาง ทั้งนี้ทางบริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบในอุบัติเหตุ
หรือความเสียหายที่เกิดจากโรงแรมที่พัก ยานพาหนะ, อันเนื่องจากอุบัติเหตุรวมถึงภัยธรรมชาติ, โจรกรรม,
วินาศกรรม, อัคคีภัย, การผละงาน, การจลาจล, สงครามการเมือง, การผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา
ระหว่างประเทศ, การนัดหยุดงาน, ความล่าช้าของเที่ยวบิน, สายการเดินเรือ, รถไฟ, พาหนะท้องถิ่น,ตลอดจน
การถูกปฏิเสธออกวีซ่าจากกงสุล และ / หรือ ส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับสถานเอกอัครราชทูต รวมถึงผู้มีอำนาจทำ
การแทนประจำประเทศไทย (โดยไม่จำต้องแสดงเหตุผล เนื่องจากเป็นสิทธิพิเศษทางการทูต) ซึ่งอยู่เหนือการ
ควบคุมของบริษัทฯ หมายรวมถึงในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวทั้งใน หรือ ต่างประเทศ แต่ทางบริษัทฯ มี
ความคุ้มครอง และประกันอุบัติเหตุ ตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ ที่รับประกันในกรณีที่ผู้ร่วมเดินทางถูกปฏิเสธโดย
เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของประเทศไทย และ/หรือ ต่างประเทศ มิให้เดินทางออก หรือ เข้าประเทศ
เนื่องมาจากความประพฤติ พฤติกรรมของผู้เดินทาง ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านการความคุมโรคติดต่อ
เฉพาะพื้นที่มีการปลอมแปลงเอกสารเพื่อการเดินทาง รวมถึงมีสิ่งผิดกฎหมาย บริษัทฯ จะไม่คืนค่าใช้จ่ายใดๆ
รายละเอียดด้านการเดินทาง อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความจำเป็น หรือเพื่อความเหมาะสมทั้งปวง โดยมิ
ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้การขอสงวนสิทธิดังกล่าว บริษัท จะยึดถือและคำนึงถึงผลประโยชน์ตลอดจน
ความปลอดภัยของท่านผู้มีเกียรติ ซึ่งร่วมเดินทางเป็นสำคัญ
REMARK
-ในกรณีที่ท่านจะใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มสีน้ำเงิน) เดินทางกับคณะ บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะไม่
รับผิดชอบ หากท่านถูกปฏิเสธการเข้าหรือออกนอกประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะโดยปกตินักท่องเที่ยวใช้
หนังสือเดินทางบุคคลธรรมดา (เล่มสีเลือดหมู)-สถานทูตเก็บค่าธรรมเนียมวีซ่าและไม่คืนในทุกกรณี