EDCBOOKING : ยุโรป... แนะนำ 13 ประเทศน่าเที่ยว ไปง่าย สวยเหมือนในฝันEDCBOOKING.COM

ยุโรป... แนะนำ 13 ประเทศน่าเที่ยว ไปง่าย สวยเหมือนในฝัน

1. อังกฤษ (England)

ดินแดนแห่งฟุตบอลที่สาวกทั่วโลกต้องอยากโดน เชื่อเลยว่าหลายๆคนจะอยากมาเชียร์สโมสรในดวงใจให้ได้อย่างน้อยครั้งนึงก่อนตาย เอาจริงๆอังกฤษเป็นเมืองที่น่าเที่ยวและฮิตมากๆจนกลายเป็นจุดหมายปลายทางลำดับต้นๆที่นักท่องเที่ยวนิยมมากันในแถบยุโรป เนื่องจากความหลากหลายในแหล่งท่องเที่ยวที่แจ่มมาก จะสายประวัตศาสตร์ก็ดี จะสายกีฬาก็ใช่ ไหนจะยังสาวกของพ่อมดน้อยที่อยากมาเยือนประเทศต้นกำเนิดของนิยายฮอตฮิตตลอดกาลอย่างแฮรี่พอตเตอร์อีก บอกเลยว่าจะสายไหนที่นี่เอาอยู่ แล้วก็ไม่ได้มีดีแค่ลอนดอนนะครับ ยังมีอีกหลายเมืองให้ได้เที่ยวกันไม่มีเบื่อ และที่พีคคือเที่ยวง่ายมากๆขนาดคนมาครั้งแรกยังชิล

2. อิตาลี (Italy)

ดินแดนรองเท้าบูตที่มาจากรูปทรงของประเทศในแผนที่ที่คล้ายๆกับเจ้ารองเท้าบูตแบบสุดๆ บอกเลยว่าถ้าพูดถึงยุโรปคนต้องนึกถึงอิตาลีเป็นลำดับต้นๆแน่นอน ทางด้านการท่องเที่ยวนี่ก็ฮอตฮิตติดลมบนเพียบ ทั้งแนวประวัติศาสตร์ที่มีทั้งมหาวิหาร โคลอสเซียม และสถานที่ต่างๆที่เก่าแก่มีความสำคัญระดับโลก หรือจะเป็นเมืองเวนิสที่ขึ้นชื่อเรื่องความโรแมนติกที่เหล่าคู่รักมาแล้วได้ฟินไปตามๆกัน อีกทั้งยังมีเทศกาลคาร์นิวัลหน้ากากเมืองเวนิสที่เป็นเทศกาลหน้ากากที่เก่าแก่มากที่สุดของโลก เรื่องการช็อปปิ้งก็ไม่เป็นรองใครแบรนด์เนมหรูๆเพียบ บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ครบเครื่องครบครันในทุกๆด้านแบบสุดๆ

3. สเปน (Spain)

แดนกระทิงดุที่โด่งดัง แน่นอนว่าที่เที่ยวเค้าก็เด่นดังไม่แพ้กัน โดยเมืองต่างๆค่อนข้างจะมีความน่าสนใจที่หลากหลาย อย่างเมืองมาดริดที่มีสโมสรดังระดับโลก เมืองโตเลโดที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่น่าค้นหา แคว้นอันดาลูซีอา ที่มีหมู่บ้านสีขาวแสนสะดุดตา รวมทั้งยังจะมีวัฒนธรรมสุดร้อนแรงไม่ว่าจะเป็น สู้วัวกระทิง ลีลาการสุดพลิ้วของมาธาดอร์ หรือจะเป็นระบำฟลามิงโก้สุดร้อนแรง

4. ฝรั่งเศส (France)

ประเทศชั้นนำแห่งแฟชั่น แหล่งช็อปปิ้งสุดปัง และที่เที่ยวหลากหลายสไตล์ เรียกได้ว่าเป็นปลายทางของนักช็อปปิ้งตัวยงที่พลาดไม่ได้เด็ดขาด ทั้งยังจะมีแลนด์มาร์กที่ดังมากๆในระดับโลกอย่างหอไอเฟลไว้ให้ได้ยลโฉมยังแบบเต็มๆตา ยังไม่หมดแค่เมืองใหญ่อย่างปารีส ยังจะมีเมืองต่างๆที่มีเสน่ห์น่าเที่ยวไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นเมืองตากอากาศสุดฮิตอย่างนีซ เมืองบอร์กโดซ์ที่มีไวน์คุณภาพเลื่องชื่อ หรือจะเป็นเมืองลียงที่มีแหล่งท่องเที่ยวเอาใจสายประวัติศาสตร์แน่นๆ

5. สวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland)

สรวงสวรรค์ของธรรมชาติอันโด่งดังที่ใครหลายคนอยากจะมาให้ได้ซักครั้งในชีวิตยิ่งถ้าคุณเป็นคนรักธรรมชาติเข้าเส้น อยากสัมผัสกับวิวทิวทัศน์ของเทือกเขาแอลป์ที่งดงามประหนึ่งหลุดเข้ามาอีกโลก บอกเลยว่าที่นี่ให้คุณได้แน่ๆ ที่สำคัญอากาศดีมากๆจนแทบอยากจะเก็บใส่กระป๋องกลับไทยซักโหลนึง แถมยังมีเมืองเล็กๆน่าเที่ยวอีกเพียบที่สามารถเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับก็ได้ หรือจะค้างให้ได้สัมผัสกับบรรยากาศอินๆก็ยังไหว

6. เยอรมนี (Germany)

ประเทศที่ได้ยินชื่อปุ๊บรู้สึกถึงความเป็นระเบียบเรียบร้อยเป๊ะๆและเบียร์เยอรมันปั๊บ เอาจริงๆเค้ายังมีสถานที่ท่องเที่ยวให้ได้ฟินกันยาวๆแบบไม่มีเบื่อ ทั้งสถาปัตยกรรมที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ไปจนสโมสรชื่อดังของเยอรมัน และที่น่าจะถูกใจก็คงเป็นคอเบียร์ที่จะได้ดื่มด่ำไปกับเบียร์หลากหลายยี่ห้อพร้อมกับอาหารเยอรมันแท้ๆดั้งเดิมอีกเพียบ ทั้งที่เที่ยวดี อาหารโดน เบียร์อร่อย ครบจบในที่เดียวจริงๆงานนี้

7. ออสเตรีย (Austria)

ประเทศเล็กๆที่วิวทิวทัศน์สวยอลังการไม่แพ้ที่ไหนๆ อีกทั้งยังมีเมืองหลวงอย่างกรุงเวียนนาที่ขึ้นชื่อเรื่องดนตรีคลาสสิก เรื่องที่เที่ยวนั้นอาจจะไม่ได้มีมาก หากแต่ละที่เด็ดๆทั้งนั้นแถมยังมีครบทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม และประเพณี เรียกได้ว่ารวมทุกความโรแมนติกทั้งเสียงเพลงและวิวหลักล้าน จริงอยู่ว่าสายทะเลนี่อาจจะแอบผิดหวังนิดๆเนื่องจากที่นี่เน้นไปทางภูเขาไม่มีทะเล แต่ก็ทดแทนด้วยวิวทะเลสาบที่สวยมากที่สุดแห่งนึงของโลก ยิ่งถ้ามาเป็นคู่อยากมองหาประเทศที่สามารถเที่ยวได้ทั่วถึงภายในระยะเวลาสั้นๆ ที่นี่ตอบโจทย์สุดๆแล้ว

8. เช็กเกีย (Czechia)

เช็ก หรือชื่อเต็มๆว่า สาธารณรัฐเช็ก อีกหนึ่งประเทศในแถบยุโรปกลางที่หลายๆคนอาจจะยังไม่เคยไป แต่บอกเลยว่าถ้าได้ไปซักครั้งจะหลงรักในบรรยากาศอันเงียบสงบ สามารถเดินชิลๆชมแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อีกเพียบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมืองปรากที่ถูกยกให้เป็นเมืองแห่งมรดกโลก เนื่องจากมีแหล่งท่องเที่ยวเก่าแก่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเยอะมากๆ ทั้งยังจะสามารถเห็นสถาปัตยกรรมที่แสดงให้เห็นถึงศิลปะแบบ โกธิค นีโอ-โกธิค บาโรค เรอเนสซองส์ และวัฒนธรรมโบฮีเมียนอีกด้วย

9. สโลวาเกีย (Slovakia)

ประเทศที่ถือเป็นม้ามืดนอกสายตาที่มองข้ามไม่ได้จริงต้องยกให้ที่นี่เลยล่ะครับ ใครชอบความเงียบสงบ นักท่องเที่ยวไม่แน่น ได้เที่ยวพร้อมกับสัมผัสกับคนท้องถิ่นและธรรมชาติที่ยังคงสมบูรณ์ นับว่ามาที่นี่ถือว่าเป็นประเทศที่ครบทุกสิ่งจริงๆ

10. ฮังการี (Hungary)

ประเทศที่เต็มไปด้วยธรรมชาติและแม่น้ำดานูบ มีทั้งเมืองที่มีสถาปัตยกรรมโบราณและที่ทันสมัย เรียกได้ว่าเป็นความแตกต่างอันลงตัว รวมทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวหลายที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้ โดยเฉพาะเมืองหลวงอย่างบูดาเปส ที่แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแต่เรื่องความวินเทจและบรรยากาศนี่น่าเที่ยวสุดๆ

11. รัสเซีย (Russia)

ประเทศที่ความสวยมาแบบโหดๆ ด้วยความที่มีหลายๆสิ่งอย่างสถาปัตยกรรมหรือวัฒนธรรมที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร เน้นไปที่รูปทรงและสีสันที่เด่นสะดุดตา ในภาพถ่ายว่าสวยแล้วเจอของจริงเข้าไปมีละลายไปกับความงดงามแบบเรียลๆ อย่างถ้ามายังกรุงมอสโควก็ไม่ได้มีแค่ศิลปะหรือสถาปัตยกรรมการก่อสร้างแบบโบราณๆให้ได้ยลเท่านั้นนะครับ เค้ายังจะมีถนนศิลปะที่รวบรวมเอาศิลปะทุกยุคทุกสมัยเรียกได้ว่ามีความชิคสูงสุดๆ

12. เบลเยี่ยม (Belgium)

ประเทศที่ตั้งอยู่ภายในแถบตะวันตกเฉียงเหนือ มาที่นี่รับรองได้เพลินไปกับภาษาที่นิยมใช้กันหลากหลายถึง 3 ภาษา ทั้ง ภาษาดัตช์ วัลโลเนีย และฝรั่งเศส ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าเราไปเยือนยังแถบไหน แต่ก็นะเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีทันสมัยสุดๆอุปสรรคทางด้านภาษาแก้ปัญหาได้ด้วยมือถือเครื่องเดียว ทางด้านที่เที่ยวยิ่งอินเพราะเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวเก่าแก่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก แถมเราสามารถเดินชิลตามท้องถนนเพื่อชมบ้านเมืองสวยๆของเค้าไดสบายๆ เนื่องจากมีการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมต่างๆเอาไว้อย่างดี รวมทั้งยังจะได้ฟินตัวแตกไปกับช็อกโกแลตและเบียร์เลิศรสที่ถือเป็นสุดยอดของดีแห่งเบลเยี่ยมที่โด่งดังไกลระดับโลกอีกต่างหาก

13. เนเธอร์แลนด์ (Netherland)

เนเธอร์แลนด์ หรือที่อาจจะคุ้นหูกับอีกชื่อเรียกว่า “ฮอลแลนด์” นับเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงมากๆเรื่อง ทิวลิป และกังหันลม จนแทบจะเป็นสัญลักษณ์ของประเทศนี้ไปแล้ว ใครบอกว่าชาวยุโรปไม่เป็นมิตรดูนิ่งๆมาที่นี่นี่เปิดโลกมากๆ เพราะคนที่นี่น่ารักค่อนข้างเฟรนลี่ต่างจากประเทศอื่นๆในยุโรป ยิ่งมาฤดูที่ทุ่งดอกทิวลิปบานสะพรั่งบอกเลยว่าสวยสะท้านใจไม่แพ้ซากุระที่เราฮิตๆดูกันแม้แต่น้อยเชียวล่ะ