เมื่อกล่าวถึงประเทศนิวซีแลนด์ สิ่งที่น้องๆนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ คงจะเป็นฝูงแกะ และนกกีวี (Kiwi) แล้ว ก็คงจะหนีไม่พ้นชนเผ่าเมารีนี่เองค่ะ คำว่า เมารี แปลว่า คนธรรมดา ส่วนพวกคนผิวขาวเรียกว่า ปาเกฮา (Pakeha) เพื่อเป็นแยกระหว่างกลุ่มคนผิวขาวและคนพื้นเมือง
เมารี (Maori) ซึ่งเป็นชนเผ่าที่มีเชื้อสายโพลินีเซีย เป็นชนพื้นเมืองดั้งเดิมที่อาศัยอยู่บนหมู่เกาะนิวซีแลนด์ ก่อนที่ชนผิวขาวจะเข้าครอบครอง บรรพบุรุษของชาวเมารีเดินทางมาถึงเกาะเหนือและเกาะใต้ของนิวซีแลนด์เมื่อราว ค.ศ.800 ซึ่งนับเป็นดินแดนสุดท้ายที่ชาวโพลีนีเซียค้นพบและเข้าครอบครองทั้งยังเป็นดินแดนที่กว้างใหญ่ที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยครอบครองด้วย

แต่เดิมนั้นชาวเมารีดำรงชีพด้วยการเก็บของป่าและล่าสัตว์ ซึ่งเหยื่อชั้นดีที่เลี้ยงชีวิตชาวเมารีในยุคแรก ๆ คือ เหล่านกโมอาชนิดต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ทั่วดินแดนแห่งนี้ แต่เมื่อนกเหล่านั้นเริ่มสูญพันธุ์ไปจนหมดเมื่อราว 600 ปีก่อน ทำให้ชาวเมารีหันมาเพาะปลูกและทำกสิกรรม ในขณะเดียวกันการที่ปริมาณอาหารลดน้อยลง จึงทำให้เผ่าต่าง ๆ เริ่มทำสงครามต่อสู้แย่งชิงทรัพยากรกันมากขึ้น แต่ละหมู่บ้านต้องสร้างป้อมค่ายล้อมรอบเพื่อป้องกันการโจมตีจากฝ่ายตรงข้าม เหล่านี้เองทำให้ชนเผ่าเมารีเข้มแข็งขึ้น สามารถคุ้มกันชาวเมารีจากชนผิวขาวที่อพยพเข้ามาในนิวซีแลนด์อีกด้วย
เนื่องจากชนผิวขาวที่อพยพเข้าสู่นิวซีแลนด์ในช่วงต้นของศตวรรษที่ 20 ล้วนแต่เป็นบุคคลที่รักสงบ และด้วยสภาพธรรมชาติ ที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้ชีวิตของชนผิวขาวเริ่มจะเข้าที่เข้าทาง ชนพื้นเมืองเมารีดั้งเดิมจึงยอมรับ และยกให้เป็นผู้คนที่ทัดเทียมกัน ความขัดแย้งระหว่างเมารีกับคนขาวจึงค่อย ๆ จางหายไป ประกอบกับการแต่งงานระหว่างคนขาวกับเมารีก็เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มีการผสมกลมกลืนทางวัฒนธรรมในบางกลุ่ม ปัจจุบันประชากรเมารี มีอยู่ประมาณร้อยละ 15 ของประชากรทั้งหมดนี่เองค่ะ
จากเรื่องที่เล่ามา น้องๆจะเห็นว่าชาวเมารีเป็นชนพื้นเมืองของประเทศนิวซีแลนด์ที่มีอารยธรรมเป็นของตัวเอง มีจิตใจกล้าหาญ มีความเป็นนักรบโดยชาติพันธุ์ และยึดมั่นในขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิม รวมทั้งยังคงรักษาภาษาของตนเอาไว้ตราบจนทุกวันนี้ค่ะ
...
ขอบคุณข้อมูลจาก country city study center