SPECIAL YADING ลี่เจียง แชงกรีล่า ย่าติง บินตรงลี่เจียง 6 วัน 5 คืน โดยหยุยลี่ แอร์ไลน์ [DR]

10.30 น.  พร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบิน RUILI AIRLINES (DR) โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน
 13.50 น.  ออกเดินทางสู่ ลี่เจียง ประเทศจีน โดย เที่ยวบินที่ DR5042 (ไม่มีบริการอาหารร้อนบนเครื่อง
17.40 น.  เดินทางถึง สนามบินลี่เจียง จากนั้นนำท่านผ่านการตรวจคนเข้าเมือง
ลี่เจียง ตั้งอยู่ในภูมิภาคที่ล้อมรอบด้วยเทือกเขาเหิงต้วน ที่คั่นกลางระหว่างที่ราบสูงชิงไห่–ทิเบต และที่ราบสูงยูนนาน–กุ้ยโจว และยังเป็นเมืองขนาดใหญ่เพียงหนึ่งเดียวในเทือกเขาเหิงต้วน เป็นเขตการปกครองที่ประกอบด้วยส่วนที่เป็นเขตเมืองและเขตชนบททางตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน มีจำนวนประชากรราว 1,100,000 คน มีย่านเมืองเก่าลี่เจียงที่มีชื่อเสียงมาก       
เวลาที่จีนเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง กรุณาปรับเวลาของท่าน เพื่อให้ตรงตามเวลานัดหมาย
 
เย็น    รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหาร
ที่พัก :  Feng Huang Yang Sheng Hotel ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า (เมืองลี่เจียง)
 

ที่พัก

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น  ออกเดินทางสู่ เมืองเต้าเฉิง (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง) ผ่านไปยังเมืองต่างๆ ของมณฑลยูนนาน เพิ่มระดับความสูงของพื้นที่ขึ้นไปทีละนิดเพื่อปรับสภาพร่างกายให้คุ้นชินกับพื้นที่สูง ภาวะออกซิเจนจะเริ่มเบาบางลงกว่าพื้นที่ราบ ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดอาการป่วยสำหรับบางคนได้ เรียกว่า ภาวะแพ้ที่สูง (Altitude Sickness) ออกจากเมืองลี่เจียงที่ความสูงประมาณ 2,000 เมตร เมืองแห่งนี้เหมือนเป็นการทดสอบสภาพร่างกายเบื้องต้น หากไม่มีอาการใดๆ ถือเป็นสัญญาณที่ดีในการเดินทางไปยัง “ย่าติง” เมื่อเข้าสู่แชงกรีล่าและผ่านเข้าสู่เมืองเต๋อชิงระดับความสูงจะแตะไป 3,000 เมตรเลยทีเดียว ดังนั้น...ทุกอย่างต้องดำเนินเป็นไปอย่างช้าๆ ต้องมีเวลาให้ปรับสภาพร่างกายเพื่อไม่ให้เกิดอาการแพ้ความสูง อาทิ หน้ามืด เวียนหัว ใจเต้นเร็ว หรือหายใจไม่ออก
โดยปกติเมื่อไปถึงจีน ไกด์จีนจะแนะนำ ยาสำหรับ แพ้ที่สูงให้กับลูกค้าทุกท่าน ที่เรียกกันว่า ยาแดง ท่านสามารถรับประทานยาตัวนี้ เพื่อปรับสภาพร่างกายตั้งแต่วันแรกที่ไปถึงจีนได้เลย เพื่อป้องกันการเกิดอันตรายจาก ภาวะแพ้ที่สูง
ในการเดินทางครั้งนี้...วิวที่สวยงามที่สุดคงหนีไม่พ้น “วิวระหว่างทาง” นั้นเอง ทิวทัศน์อันสวยงามจะเปลี่ยนไปตามลักษณะภูมิประเทศที่หลากหลายของเมืองจีน ผ่านหุบเขาลัดเลาะไปตามไหล่เขาที่มีแม่น้ำไหลผ่านอยู่เบื้องล่าง ผ่านทุ่งหญ้าอันกว้างไกลสุดสายตา ชมวิวฝูงจามรีและหมู่บ้านของชาวทิเบตตามสองข้างทาง

เที่ยง   รับประทานอาหารเที่ยง ณ ร้านอาหาร
จากนั้น  เดินทางถึง เมืองเต้าเฉิง ดินแดนที่รับขนานนามว่าเป็นเมืองแห่งสรวงสวรรค์ ชาวพื้นเมืองมักเรียกสถานที่แห่งนี้ว่า “ซัมบาลา” มาจากคำว่า “เซียงปาลา” ในภาษาทิเบตนั้นแปลว่า “บ้านเก่า” สถานที่ต้องกลับไปก่อนลาจากโลกมนุษย์ เพื่อค้นหาความสงบและตัดขาดจากโลกภายนอก “เต้าเฉิงย่าติง” จึงถือว่าเป็นเซียงปาลาแห่งสุดท้ายของชาวทิเบต
เต้าเฉิงย่าติง ที่แท้จริงแล้วก็คือ เซียงเก๋อหลี่ลา (แชงกรีล่า) แต่แชงกรีล่า ที่คนไปเที่ยวกันในปัจจุบันนี้ จริงๆก็คือ แผ่นดินภาคกลาง คงเนื่องด้วยสมัยก่อนการคมนาคมไม่สะดวก ทำให้การไปที่เต้าเฉิงย่าติงนั้นลำบากมาก ทำให้คนไปกันไม่ถึง แล้วเพื่อการท่องเที่ยวทำให้มีการเรียกแผ่นดินภาคกลางที่มีความอุดมสมบูรณ์ และ สวยงามว่า เซียงเก๋อหลี่ลา (แชงกรีล่า) แทน

เย็น  รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหาร
ที่พัก :  RAMADA HOTEL ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
 
 

ที่พัก

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น  นำท่านเดินทางขึ้นสู่ อุทยานแห่งชาติย่าติง โดยรถโค้ชอุทยาน (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) “ย่าติง” นั้นเป็นสถานที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามทางธรรมชาติของประเทศจีน ตั้งอยู่บนความสูง 4,000 กว่าเมตรเหนือระดับน้ำทะเล เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-ตุลาคม) นักท่องเที่ยวจะนิยมเดินทางไปชมความสวยงามของผืนป่าที่เปลี่ยนเป็นสีเหลือง สีส้ม สีแดง สลับสีเขียว รวมทั้งความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติอันสวยงาม ทะสาบบนยอดเขาที่น้ำใสราวกับพื้นกระจก โดยมีฉากหลังเป็นภูเขาหิมะขาวโพลน ซึ่งเป็นดินแดนที่ถูกเปรียบเปรยไว้ว่า “ดินแดนแห่งสวรรค์บนดิน แชงกรีล่าแห่งสุดท้ายของชาวทิเบต”
การท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติย่าติง มีจุดให้เลือกเดิน 2 เส้นทาง

• เส้นทางระยะสั้น เริ่มจาก > ทุ่งหญ้าชงกู่ – วัดชงกู่ – ทะเลสาบไข่มุก – จุดชมวิวยอดเขาเซียนหน่ายยื่อ รวมระยะทางประมาณ 4-5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 3-4 ชั่วโมง
• เส้นทางระยะยาว เริ่มจาก > ทุ่งหญ้ารั่วหลง – จุดชมวิวยอดเขาเซี่ยโยโตเจีย และยอดเขายานม่ายหยง – ทะเลสาบน้ำนม – ทะเลสาบห้าสี รวมระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 7 – 8 ชั่วโมง

5. ทุ่งหญ้าชงกู่ ทุ่งหญ้าสีเหลืองทองขนาดใหญ่ โดยมีฉากหลังเป็นภูเขาหิมะสูงตระหง่าน ตรงกลางมีแม่น้ำสีใสพาดผ่านราวกับท้องกระจก ทางตัวอุทยานนั้นจัดวางเส้นทางการเดินไว้อย่างดี มีสะพานไม้และสะพานเหล็กให้เดินลัดเลาะชมธรรมชาติไปเรื่อยๆ ตัวบันไดมีราวให้จับอย่างปลอดภัยตลอดระยะทางไป-กลับ 1.5 กิโลเมตร
5. วัดชงกู่ (Chonggu Temple) วัดทิเบตที่ตั้งอยู่ภายในอุทยานย่าติง จุดประสงค์ในการสร้างวัดแห่งนี้ ก็เพื่อบูชาภูเขาศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามแห่ง วัดชงกู่ วัดที่เป็นศิลปะของชาวทิเบต  มีอายุเก่าประมาณ 8000 ปี ด้านหน้าของวัดจะมีกองหินและริ้วธงมนตราที่ชาวทิเบตนำมาวางไว้เพื่อบูชา ส่วนภายในวัดอาคารต่างๆ จะถูกตกแต่งตามความเชื่อและศิลปะของชาวทิเบต
5. ทะเลสาบไข่มุก ตั้งอยู่ไม่ไกลจากวัดชงกู่ ใช้เวลาเดินไม่นานก็มาเจอกับทะเลสาบสีเขียวมรกตขนาดใหญ่ “ทะเลสาบไข่มุก” โดยมีฉากหลังเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวทิเบต “ภูเขาอวโลติเกศวรโพธิสัตว์” ซึ่งทะเลสาบแห่งนี้ ถูกโอบล้อมด้วยภูเขาที่ปกคลุมด้วยต้นสนใบสีเหลืองทอง ดื่มดำกับความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ และซึมซับบรรยากาศยามที่สายลมพัดพาให้ผิวน้ำขยับตัวเป็นระลอก เพลิดเพลินไปกับสีสันของใบไม้ที่ผลัดใบเปลี่ยนเป็น สีส้ม สีแดง และสีเหลือง ตัดกับแนวภูเขาหิมะได้อย่างสวยงามลงตัว หากโชคดีท้องฟ้าแจ่มใสก็จะได้เห็นเงาสะท้อนภาพยอดเขาสีขาวโพลนบนผืนน้ำที่ใสราวกับท้องกระจก
5. จุดชมภูเขาหิมะ 3 พระโพธิสัตว์ (ยอดเขาเซียนหน่ายยื่อ) จากทะเลสาบสีมรกตเดินต่อไปเรื่อยๆ จะเจอกับที่ราบกว้างใหญ่ ภาพที่ปรากฎเบื้องหน้าคือ ยอดเขาเซียนหน่ายยื่อ (Xian Nai Ri Peak) 1 ใน 3 ยอดเขาศักดิ์สิทธิ์ภายในอุทยานแห่งชาติย่าติง ตั้งตระหง่านอย่างยิ่งใหญ่ดูน่าเกรงขาม ถือเป็นยอดเขาแทนพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร “พระโพธิสัตว์แห่งความกรุณา” มีความสูงประมาณ 6,032 เมตร

เที่ยง  รับประทานอาหารเที่ยง แบบข้าวกล่อง (แบบปิกนิก)

5. ทุ่งหญ้าลั่วหรง ทุ่งหญ้าเปลี่ยนสีขนาดใหญ่ท่ามกลางขุนเขาที่โอบล้อม ซึ่งจะมีความสวยงามแตกต่างกันไปตามฤดูกาลต่างๆ ถือเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการชมภูเขาศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามด้วยตาเปล่า โดยเราจะเห็นฝูงแกะและฝูงจามรีกินหญ้าสีเขียวใกล้กับน้ำใสๆ ซึ่งไหลลงมาจากยอดเขาหิมะ มองเห็นเส้นทางเดินที่ตัดผ่านไปตามแนวหุบเขาลึกเข้าไปไกลจนสุดสายตา และผู้คนมากมายเดินย่ำไปตามเส้นทางที่แสนสวยงาม

5. จุดชมภูเขาหิมะ 3 พระโพธิสัตว์ (ยอดเขาเซี่ยโยโตเจีย) ตั้งตระหง่านอยู่ในหุบเขาธารน้ำแข็ง และเชิงเขาถูกปกคลุมด้วยหิมะ บนยอดเขามีลักษณะเป็นทรงพีระมิดยอดแหลม ยอดเขาเซี่ยโยโตเจีย (Xia Nuo Duo Ji Peak) นั้น ถือเป็นยอดเขาแทนพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร “พระโพธิสัตว์วัชรปาณี” ผู้คุ้มครองภยันตรายต่างๆ มีความสูงประมาณ 5,958 เมตร หากโชคดีอาจจะเห็นฝูงสัตว์ประจำถิ่นโดยเฉพาะกวาง หรือสมันน้อยปรากฏโฉมให้เห็นในระยะใกล้

เย็น   รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหาร

ที่พัก

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น  นำท่านเดินทางสู่ แชง-กรีล่า (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที) นำท่านสักการะ วัดลามะซงจ้าหลิน (วัดโปตาลาน้อย) ศูนย์กลางศาสนาพุทธของชาวทิเบตในแชง-กรีล่า เป็นวัดนิกายลามะที่ใหญ่ที่สุดของมณฑลยูนนาน สร้างตามแบบพระราชวังโปตาลาของกรุงลาซา ตัววัดตั้งอยู่บนภูเขาสูง มีหลังคาสีเหลืองทองอร่ามสามารถมองเห็นได้จากที่ไกลๆ วิหารหลังใหญ่ถูกล้อมรอบด้วยวิหารเล็กจำนวน 8 หลัง ด้านในเป็นสถานที่รวบรวมพระพุทธรูปทองคำ พระคัมภีร์โบราณ และสมบัติล้ำค่ามากมาย ในช่วงเทศกาลชาวทิเบตที่นี่ยังคงรักษาประเพณีดั้งเดิมเอาไว้ ด้วยการเต้นระบำหน้ากากและเป่าแตรงอน
หมายเหตุ : รถที่ขึ้น-ลงวัดลามะ จะมีรอบให้บริการหรือไม่ ขึ้นอยู่กับหน้างาน
ซึ่งอยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัทฯ หาก ณ วันเดินทาง รถหยุดให้บริการ
ทางลูกค้าจะต้องเดินขึ้น-ลงจากจุดหน้าวัดด้วยตัวท่านเอง

เที่ยง    รับประทานอาหารเที่ยง ณ ร้านอาหาร
จากนั้น  อิสระผักผ่อนตามอัธยาศัย หรือเดินเที่ยวชมบรรยากาศ เมืองเก่าจงเตี้ยน เมืองเล็กๆ ทีสร้างขึ้นเพื่ออนุรักษ์สถาปัตยกรรมแบบจีน บ้านเรือนส่วนใหญ่จะเป็นบ้านไม้ในสไตล์ทิเบต ที่ดัดแปลงให้กลายเป็นร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านของที่ระลึกและเกสต์เฮาส์ แต่เดิมเป็นถิ่นฐานของชาวทิเบต ผู้คนในเมืองยังคงแต่งกายพื้นเมือง ตกเย็นบริเวณลานกลางเมืองจะมีชาวเมืองมารวมตัวกัน ยืนล้มเป็นวงกลมใหญ่ๆ เพื่อออกกำลังกายกันอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งเป็นภาพน่ารักๆ ที่หาดูได้ไม่ยากเมื่อมาเยือนเมืองเก่าแห่งนี้นอกจากนี้ ยังมีวัดสำคัญอีกแห่งหนึ่งของแชงกรีล่า วัดกุยชาน คนไทยนิยมเรียกว่า “วัดต้าฝอ” ด้านในอาคารประดิษฐานพระประทานองค์ใหญ่ แต่สิ่งที่สะดุดสายตาคนที่ผ่านไปมาคงหนีไม่พ้น “กงล้อมนต์สีทอง” มีความสูง 23 เมตร ตั้งตระหง่านโดดเด่นเห็นได้จากที่ไกลๆ ผู้คนนิยมไปหมุนวนพร้อมกับสวดมนต์เพื่อให้บทสวดดังก้องไปถึงสรวงสวรรค์ ตัววัดจะประดับแสงสีในยามค่ำคืน นอกจากจะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แล้ว ยังเป็นจุดชมวิวเมืองที่สวยมากๆ อีกแห่งหนึ่ง

เย็น   รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหาร
ที่พัก :  GRACE HOTEL ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า


 

ที่พัก

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองลี่เจียง (Lijiang) เขตการปกครองทางตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน จึงได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็น มรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี 1997 จากองค์การยูเนสโก พื้นที่แห่งนี้มีประวัติศาสตร์เก่าแก่ยาวนานหลายร้อยปี และเป็นที่ตั้งถิ่นฐานของชนเผ่าหน่าซี (Naxi) ที่อพยพมาจากทิเบต
จากนั้น เดินทางสู่ หู่เที่ยวเสีย หรือ ช่องแคบเสือกระโจน (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม.) เป็นร่องน้ำเชี่ยวในหุบเขาที่มีความยาวต่อเนื่องกันถึง 25 กม. มีแก่งอันตรายถึง 18 แห่ง จึงไม่มีใครกล้าล่องแก่งในแถบนี้ จุดแคบที่สุดวัดได้ 30 เมตร และเป็นช่องแคบที่ลึกที่สุดในโลก คือประมาณ 3,900 เมตร ตามตำนานเล่าว่า ในอดีตช่องแคบเสือนี้สามารถกระโดดข้ามไปยังฝั่งตรงข้ามได้ จึงเป็นที่มาของ "ช่องแคบเสือกระโจน"
(ราคาทัวร์รวมค่าบันไดเลื่อนขึ้น-ลงแล้ว)

เที่ยง  รับประทานอาหารเที่ยง ณ ร้านอาหาร
นำท่านชม สระมังกรดำ (Heillongtan, Black Dragon Pool) หรือ เฮยหลงถัน อยู่ในสวนสาธารณะขนาดใหญ่ เรียกกันว่า สวนยู้วฉวน ตั้งอยู่ในตัวเมืองลี่เจียง ห่างจากตัวเมืองเก่าลี่เจียงไปทางทิศเหนือประมาณ 1 กิโลเมตร เเละทางยูเนสโก ยกให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย โดยสระน้ำมังกรนี้สร้างขึ้นสมัยราชวงศ์ชิง (เเมนจู) จุดเด่นของที่นี่คือ ความใสของน้ำที่ใสราวกับมรกต สระน้ำมังกรดำ เเห่งนี้มีเรื่องเล่าขานต่อต่อกันมาว่า ในอดีตมีคนพบเห็นมังกรดำปรากฏกายใต้น้ำบ้าง ผุดขึ้นมาจากสระน้ำบ้าง บรรยากาศภายในสวนนั้นเงียบสงบและงดงามด้วยบึงน้ำใสสะอาดสะท้อนภาพทิวทัศน์ของเทือกเขาหิมะมังกรหยกได้อย่างชัดเจน ว่ากันว่าทิวทัศน์ของเทือกเขาหิมะมังกรหยกที่มองจากบริเวณ สระมังกรดำเป็นหนึ่งในทิวทัศน์ที่งดงามที่สุดของจีน
นำท่านชม เมืองโบราณลี่เจียง (Ancient Town of Lijiang) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที) เมืองเก่ากว่า 800 ปี ที่มีสถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมแตกต่างไปจากเมืองโบราณอื่นๆ ของจีน เนื่องจากเป็นเมืองที่เป็นที่ตั้งรกรากของชาวหน่าซี หรือนาซี มาตั้งแต่สมัยโบราณ เมืองนี้ยังได้รับการขนานนามว่า "เวนิสแห่งตะวันออก" และเป็นเมืองมรดกโลกอีกด้วย และเมืองโบราณลี่เจียงเองก็ยังคงรักษาความงามในอดีตไว้ได้เป็นอย่างดี มีทางเดินที่ปูด้วยหินอัดแน่น อาคารไม้แบบจีนโบราณ ลำธารที่ไหลผ่านเกือบทุกหลังคาเรือน สะพานโค้งหินเก่าแก่ ต้นหลิวริมลำธารที่กิ่งใบลู่ไหวไปตามสายลม ถนนแต่ละสายในเขตเมืองเก่าจะมาบรรจบกันที่ ตลาดสี่เหลี่ยม “ซื่อฟางเจีย” ศูนย์กลางการซื้อขายสินค้า

เย็น   รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหาร
ที่พัก :  Feng Huang Yang Sheng Hotel ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า (เมืองลี่เจียง)

 

ที่พัก

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบินลี่เจียง เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับกรุงเทพฯ
11.00 น.   ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ สายการบิน RUILI AIRLINES เที่ยวบินที่ DR5041 (ไม่มีบริการอาหารบนเครื่อง)
12.50 น.   ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ