• ตั๋วเครื่องบินอเมริกา

จัดทริปเที่ยวเวียดนาม กับหลากฤดูกาลน่าเที่ยวตลอดปีในเวียดนาม

ประเทศเวียดนามเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กับสภาพภูมิประเทศที่แหวกแนวกว่าเพื่อนบ้าน ด้วยลักษณะแคบและยาวตั้งแต่จีนแผ่นดินใหญ่จรดรอยต่อระหว่างอ่าวไทยกับทะเลจีนใต้ จึงทำให้เวียดนามมีสภาพอากาศที่ซับซ้อนและแตกต่างกันค่อนข้างมากในแต่ละภูมิภาค 

การวางแผนท่องเที่ยวเวียดนามจึงต้องมีการคำนึงถึงสภาพอากาศกับตำแหน่งที่ตั้งของเมืองที่จะไปร่วมกันจึงต้องมีคู่มือช่วยจัดทริปเที่ยวเวียดนามให้เข้ากับฤดูกาลและเมืองที่น่าไปเที่ยว เที่ยวเวียดนามที่ไหนดี เที่ยวเวียดนามเดือนไหนดี เรามีคำตอบให้ ง่ายครบจบในที่เดียว

รู้จักกับภูมิประเทศของเวียดนาม
เวียดนามเหนือ
เวียดนามเหนือนั้นมีพื้นที่ทิศเหนือติดกับประเทศจีน ทิศตะวันตกติดกับลาว และทิศตะวันออกติดกับอ่าวตังเกี๋ย โดยแบ่งภูมิประเทศออกเป็น 3 ภาคด้วยกันคือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันตกเฉียงเหนือ และดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแดง เมืองสำคัญในเวียดนามเหนือคือฮานอยและไฮฟอง โดยเขตนี้จะมีสภาพอากาศค่อนข้างเย็นและมีการแบ่งฤดูกาลออกเป็น 4 ฤดูกาลคือ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว

เวียดนามกลาง
เวียดนามกลางเป็นพื้นที่ส่วนที่แคบที่สุดของประเทศ มีพื้นที่ฝั่งซ้ายติดประเทศลาวและฝั่งขวาติดทะเลจีนใต้ โดยแบ่งภูมิประเทศออกเป็น 1 ภาคคือ ภาคชายฝั่งตอนกลางเหนือ เมืองสำคัญในเวียดนามกลางคือทัญฮว้า โดยเขตนี้จะมีสภาพอากาศแบบร้อนชื้น และมีเพียง 2 ฤดูกาลคือ ฤดูฝน และฤดูแล้ง

เวียดนามใต้
เวียดนามใต้เป็นพื้นที่แคบส่วนล่างที่ฝั่งตะวันตกติดกับประเทศกัมพูชา ฝั่งตะวันออกติดกับทะเลจีนใต้ และมีฝั่งใต้บางส่วนที่ติดกับอ่าวไทย โดยแบ่งภูมิประเทศออกเป็น 4 ภาคด้วยกันคือ ภาคชายฝั่งตอนกลางใต้ ภาคที่สูงตอนกลาง ภาคตะวันออกเฉียงใต้ และดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง เมืองสำคัญของเวียดนามใต้คือโฮจิมินห์ซิตี้และดานัง โดยเขตนี้จะมีสภาพอากาศแบบร้อนชื้น และมีเพียง 2 ฤดูกาลคือ ฤดูฝน และฤดูแล้งเช่นเดียวกับเวียดนามกลาง

ฤดูใบไม้ผลิเวียดนาม (มีนาคม – พฤษภาคม)
เป็นช่วงที่อากาศเย็นสบายแต่มักจะมีฝนตกเล็กน้อยทำให้อากาศค่อนข้างชื้น ในช่วงนี้ต้นไม้ใบหญ้าจะเริ่มกลับมาเขียวสดใสอีกครั้งหลังจากห่างหายจากฝนไปในช่วงฤดูหนาว เป็นอีกช่วงหนึ่งที่เหมาะกับการเที่ยวเวียดนามเหนือเป็นอย่างมากเนื่องจากสภาพอากาศที่เย็นสบายกว่าเมืองไทย

โฮจิมินห์ (Ho Chi Minh Mausoleum)


เริ่มต้นฤดูกาลแห่งความสดใสและเย็นสบายที่เมืองหลวงอย่างฮานอยกันก่อน เพราะสภาพอากาศที่กำลังเย็นกำลังดี มีฝนตกลงมาให้แมกไม้ชุ่มชื้นหน่อยๆ ช่วงนี้แหละจึงเป็นช่วงที่ดีสำหรับการชมเมืองฮานอย ไม่ว่าจะเป็นการไปชมทะเลสาบฮว่านเกี๋ยม (Ho Hoan Kiem) การเดินเล่นจัตุรัสบาดิงห์ (Ba Dinh) เพื่อชมความยิ่งใหญ่ของสุสานโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh Mausoleum) นอกจากนี้ในฮานอยก็มีพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์ วัดวาอาราม และสถานที่เก่าแก่แต่เปี่ยมไปด้วยมนต์ขลังอีกมากมายและพร้อมให้คุณเยี่ยมชมอยู่ตลอดทั้งปีตามต้องการ


ฤดูร้อนเวียดนาม (มิถุนายน – สิงหาคม)
ฤดูร้อนของเวียดนามเหนือคือช่วงที่มีฝนตกบ่อยที่สุด และเป็นช่วงที่มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าวที่สุดด้วยเช่นกัน โดยอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 26-33 องศา แต่ก็เคยมีอากาศร้อนสูงสุดถึง 40 องศาไม่แพ้กับภาคอื่นๆเลยทีเดียว แต่ทั้งนี้แม้จะมีฝนบ่อย แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคกับการเดินทางเท่าไหร่นักหากวางแผนเช็คสภาพอากาศล่วงหน้า

ไฮฟอง (Haiphong)
 

แม้ว่าฤดูร้อนจะมีอากาศร้อนและฝนตกชุก แต่เมืองไฮฟองนั้นก็ยังยิ้มรับนักท่องเที่ยวด้วยชายหาด! กับชายหาดดู่เซิน (Do Son Beach) ซึ่งตั้งอยู่บนแหลมที่ยื่นออกสู่อ่าวตังเกี๋ย ซึ่งชายหาดนี้ยังเป็นเมืองตากอากาศสมัยยุคลาอาณานิคมของฝรั่งเศสอีกด้วย และปัจจุบันยังเป็นที่ตั้งของโรงแรมรีสอร์ทมากมาย โดยช่วงที่น่าเที่ยวที่สุดคือช่วงเดือนสิงหาคมถึงเดือนตุลาคม ซึ่งน้ำทะเลกำลังอุ่นสบายกำลังดี แต่นอกจากชายหาดแล้วในไฮฟองยังมีวัดวาอารามแบบชาวจีนและสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายให้เที่ยวได้ตลอดทั้งปีด้วยนะ

ฤดูใบไม้ร่วงเวียดนาม (กันยายน – พฤศจิกายน)
นับได้ว่าฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงที่มีอากาศเย็นสบายและน่าเที่ยวมากที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะมีอุณหภูมิเฉลี่ยเพียง 23-28 องศา และมีฝนตกน้อยกว่าฤดูใบไม้ผลิ ท้องฟ้าแจ่มใส จึงเหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้งและการเดินชมเมืองเป็นอย่างมาก แต่อย่าลืมผ้าพันคอและเสื้อแจ็คเก็ตกันลมไว้สักหน่อยเป็นดี

กว๋างนิญ (Quang Ninh)


กว๋างนิญเป็นจังหวัดที่อยู่มใกล้กับฮานอยและไฮฟอง โดยเป็นที่ตั้งของอ่าวฮาลองเบย์ (Ha Long Bay) สถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลที่มีชื่อเสียงที่สุดของเวียดนาม โดยการเที่ยวฮาลองเบย์ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนั้นถือว่าเป็นช่วงที่ดีที่สุด เพราะเป็นช่วงที่คลื่นลมกำลังสงบเหมาะกับการล่องเรือ ป่าไม้ตามเกาะแก่งต่างๆ ก็ได้รับน้ำฝนในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมาอย่างเต็มที่ จึงเป็นความงดงามระหว่างน้ำทะเลและท้องฟ้าสีครามตัดกับความเขียวขจีของหมู่ไม้ที่ขึ้นตามซอกหินผา และนอกจากการล่องเรือในฮาลองเบย์แล้ว ในละแวกด้วยกันยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอย่างถ้ำเทียนกึง (Thien Cung) ด้วย

ฤดูหนาวเวียดนาม (ธันวาคม – กุมภาพันธ์)
เป็นฤดูที่มีอากาศเย็นที่สุดในรอบปีสำหรับเวียดนามเหนือ โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยเพียง 7-20 องศาตามแต่สภาพพื้นที่ ทั้งนี้พื้นที่สูงทางเหนือสุดของเวียดนามอาจมีหิมะตกให้เห็นด้วย โดยเดือนที่หนาวเย็นที่สุดคือช่วงเดือนมกราคม ซึ่งบนที่สูงบางแห่งอาจเย็นถึง 0 องศา ใครจะท่องเที่ยวเวียดนามเหนือในช่วงนี้อย่าลืมเตรียมเสื้อผ้าหนาๆ ไว้ด้วย

ซาปา (Sapa)


จริงๆ แล้วซาปาสามารถเที่ยวได้ทุกฤดูกาล เพราะนอกจากคุณจะได้ชมเมืองสไตล์ยุโรปท่ามกลางหุบเขาสูงในอากาศเย็นสบายตลอดปีแล้ว ที่ซาปายังมีทุ่งนาขั้นบันไดที่มีชื่อเสียงลือเลื่องอีกด้วย โดยช่วงที่ทุ่งนากำลังเขียวชอุ่มนั้นจะอยู่ในช่วงฤดูร้อนที่อากาศกำลังเย็นสบาย แต่ถ้าคุณอยากสัมผัสกับความแตกต่างอีกรูปแบบหนึ่งล่ะก็ ต้องมาเที่ยวในช่วงฤดูหนาว เพราะจะเป็นช่วงที่ซาปากำลังหนาวจัด สภาพอากาศอาจลดน้ำถึง 0 องศา และมีหิมะตกเกือบทุกปี! สำหรับใครที่อยากสัมผัสหิมะแต่ไม่อยากไปไกลถึงซีกโลกเหนือล่ะก็ แค่มาซาปา เวียดนาม คุณก็ได้สัมผัสหิมะของจริงแล้ว


 
ฤดูที่เฉอะแฉะที่สุดของเวียดนามกลางและใต้ แต่ก็เป็นช่วงที่ดีที่สุดในการชมธรรมชาติและความเขียวชอุ่มของไร่นาแบบขั้นบันได และเป็นเวลาที่เหมาะต่อการเที่ยวทะเลช่วงต้นฤดู โดยฤดูนี้อาจมีอุณหภูมิสูงสุดถึง 40 องศาในช่วงฤดูร้อนที่แดดจัดที่สุด ส่วนอุณหภูมิทั่วไปจะอยู่ที่ 26-34 องศา และฤดูนี้ยังเป็นช่วงที่มีพายุฝนฟ้าบ่อยที่สุดของปี ซึ่งเอาแน่เอานอนไม่ได้นัก แต่คุณสามารถรับมือได้ง่ายๆ ด้วยการเช็คสภาพอากาศล่วงหน้าก่อนการเดินทาง



ดานัง (Da Nang)


อย่าเพิ่งไปกลัวกับฤดูฝนของเวียดนาม เพราะดานังมีที่เที่ยวให้คุณคลายร้อนในฤดูกาลนี้ กับชายหาดน็อนเนือก (Non Nuoc Beach) ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คลายร้อนได้ดีที่สุดในช่วงฤดูฝน ซึ่งคุณสามารถเลือกเที่ยวดานังได้ในช่วงต้นฤดูเพื่อหนีพายุฝนที่มักจะเกิดบ่อยครั้งในช่วงปลายฤดู และนอกจากชายหาดท้าร้อนแล้ว ดานังยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายทั้งสะพานมังกร (Dragon Bridge) ที่สวยงามทั้งกลางวันและกลางคืน และบานาฮิลส์ (Ba Na Hills) สถานที่ตากอากาศในหุบเขาสไตล์ยุโรป และยังเป็นที่ตั้งของโบราณสถานที่มีชื่อเสียงอย่างปราสาทหมีเซิน (My Son) อีกด้วย



ฮอยอัน (Hoi An)


ฮอยอัน เมืองประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลกจากยูเนสโก ที่นี่คุณจะได้พบกับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่เก่าแก่มากมาย อาทิเช่นสัญลักษณ์ของเมืองอย่างสะพานญี่ปุ่น (Japanese Covered Bridge) และประตูทางเข้าสมาคมฟุกเกี๋ยน (Phouc Kien Assembly Hall) ซึ่งน่าแปลกที่บรรยากาศสุดคลาสิกของเมืองฮอยอันนั้นคือเวลาฝนตกพร่ำๆ ให้ความเปียกชื้นทำให้โบราณสถานเหล่านี้ยิ่งงดงามและตราตรึง นอกจากนี้ฮอยอันยังมีชายหาดสวยๆ เช่นเดียวกับดานังคือ หาดเกาได๋ (Cao Dai Beach) ซึ่งเป็นชายหาดสวยที่มีทรายเนื้อละเอียดไม่แพ้เมืองไทย

ฤดูแล้งเวียดนาม (พฤศจิกายน – เมษายน)
ฤดูแล้งของเวียดนามกลางและใต้นั้นถือเป็นช่วงที่ดีที่สุดในการชมเมือง เพราะไม่ค่อยมีฝนมารบกวนการท่องเที่ยวเท่าใดนัก โดยในฤดูนี้จะมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 20-26 องศา ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่ โดยเดือนที่มีอากาศเย็นที่สุดจะอยู่ในช่วงประมาณเดือนมกราคม ทั้งนี้อาจมีฝนหลงฤดูโปรยปรายอยู่บ้างแต่ไม่มากนัก คุณจึงสามารถวางแผนเที่ยวเวียดนามได้อย่างสบายใจ


โฮจิมินห์ซิตี้ (Ho Chi Minh City)


มหานครที่ใหญ่ที่สุดทางใต้ของเวียดนาม ซึ่งเป็นที่ที่คุณสามารถพบทั้งความทันสมัย ความเก่าแก่ และเอกลักษณ์ที่น่าหลงใหล จุดเด่นที่สุดของโฮจิมินห์ซิตี้นั้นก็หนีไม่พ้นอาคารสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปที่มีอยู่มากมาย การเดินท่องเที่ยวเมืองที่สวยงามนี้จึงเหมาะมากในช่วงฤดูแล้งที่ไม่มีฝนและอากาศเย็นสบายกับท้องฟ้าที่สุดใส เพราะคุณต้องเก็บรูปเซลฟี่หน้าอาคารและสถานที่สำคัญต่างๆ จนเมื่อยมืออย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นโรงละครโอเปร่าไซง่อน (Saigon Opera House) ศาลากลางนครโฮจิมินห์ (Ho Ci Minh City Hall) และวัดกาวได๋ (Cao Dai Temple) ที่สวยงามแปลกตาเช็คตั๋วเครื่องบินราคาประหยัดไปโฮจิมินห์ซิตี้

ดาลัด (Dalat)


ดาลัด (หรือด่าหลัต) เป็นอีกเมืองหนึ่งที่น่าสนใจและเหมาะต่อผู้ที่ชื่นชอบทั้งการชมเมืองและอยากสัมผัสกับธรรมชาติ โดยดาลัดนั้นถูกขนานนามว่าเป็นเมืองแห่งดอกไม้ของเวียดนาม โดยมีสวนดอกไม้ดาลัด (Dalat Flower Gardens) เป็นสวนชมดอกไม้เมืองหนาวที่ใหญ่ที่สุดของเมือง และมีดอกไม้กว่า 300 สายพันธุ์ที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนชูช่อและสีสันให้นักท่องเที่ยวได้ชมตลอดปี นอกจากนี้ดาลัดยังมีทะเลสาบแห่งความโศกเศร้า (Lake of Sighs) ซึ่งเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ร่มรื่นและมีการตกแต่งอย่างสวยงาม นอกจากนี้โดยรอบดาลัดยังมีน้ำตกสวยๆ อีกหลายแห่งให้ชื่นชมอีกด้วย

และนอกจากเมืองต่างๆ ที่เราได้แนะนำคุณไว้ข้างต้นแล้ว เวียดนามยังมีสถานที่และเมืองท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมายที่คุณสามารถประกอบเป็นทัวร์เที่ยวเวียดนามด้วยตนเองได้อย่างน่าประทับใจ อาทิเช่นเมืองเว้ (Hue) ที่เป็นแหล่งรวมโบราณสถานสำคัญทางประวัติศาสตร์ และมุยเน่ (Mui Ne) ที่คุณจะพบกับทะเลทรายของจริงในเวียดนามจากที่นี่ โดยทุกๆ เมืองของเวียดนามนั้นสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่คุณก็สามารถเลือกช่วงเวลาที่ดีที่สุดเพื่อเมืองหลักที่คุณจะไปได้แล้วล่ะ ขั้นตอนต่อไปก็มาวางแผนท่องเที่ยวกับข้อมูลเพิ่มเติมจากเราได้ที่นี่เลย
 


ขอบคุณข้อมูลจาก skyscanner
 
 

ค้นหาบทความ

ทัวร์แนะนำ

  • ลูกบาส
  • ที่ปรึกษาการท่องเที่ยวต่างประเทศ
  • ทัศ
  • ที่ปรึกษาการท่องเที่ยวต่างประเทศ
  • พี
  • แผนกกรุ๊ปเหมาทั้งในประเทศและต่างประเทศ
  • เอ๋
  • ที่ปรึกษาตั่วเครื่องบินในประเทศ-ต่างประเทศ องค์กรเอกชน, หน่วยงานราชการ, รัฐวิสาหกิจ ลูกค้าทั่วไป
  • ปุ๊กกี้
  • ที่ปรึกษาตั่วเครื่องบินในประเทศ-ต่างประเทศ องค์กรเอกชน, หน่วยงานราชการ, รัฐวิสาหกิจ ลูกค้าทั่วไป
  • เนตร
  • ที่ปรึกษาตั่วเครื่องบินในประเทศ-ต่างประเทศ องค์กรเอกชน, หน่วยงานราชการ, รัฐวิสาหกิจ ลูกค้าทั่วไป
DEPARTMENT OF TOURISM
Thai Travel Agents Association
Amazing Thailand Safety and Health Administration (SHA)